ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 575.77 จุด หลังตลาดคลายกังวลเงินเฟ้อ

27 พฤษภาคม 2565

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นต่อเนื่องในวันศุกร์ (27 พ.ค.) หลังสหรัฐเผยดัชนีราคาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อสหรัฐได้แตะระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งจะทำให้เฟดสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,212.96 จุด พุ่งขึ้น 575.77 จุด หรือ +1.76%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,158.24 จุด พุ่งขึ้น 100.40 จุด หรือ +2.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,131.13 จุด พุ่งขึ้น 390.48 จุด หรือ +3.33%

 

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 6.2% หลังร่วงลง 8 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.6% และ 6.8% ตามลำดับ หลังจากที่ร่วงลง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

 

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น นำโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย พุ่งขึ้น 3.47% และกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 3.44 % โดยหุ้นแอปเปิล, หุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นเทสลา ช่วยหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด

ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้เพิ่มความหวังว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น จะไม่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวลง

 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลง หลังจากพุ่งแตะระดับ 6.6% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนม.ค.2525 ทั้งนี้ การชะลอตัวของดัชนี PCE ทั่วไปในเดือนเม.ย. ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2563 และเมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 0.9% ในเดือนมี.ค.

 

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวจากระดับ 5.2% ในเดือนมี.ค. โดยดัชนี PCE พื้นฐานชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.เช่นกัน

ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ

 

การเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย โดยบริษัทจำนวน 488 แห่งในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาแล้ว ซึ่ง 77% รายงานผลประกอบการสูงเกินคาด

 

หุ้นอัลตา บิวตี้ พุ่งขึ้น 12.5% หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส และหุ้นเดลล์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 12.9% หลังเปิดเผยรายได้และผลกำไรรายไตรมาสสูงกว่าคาด

 

สำหรับปริมาณการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างเบาบางก่อนวันหยุดยาวของตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดย ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. เนื่องในวัน Memorial Day