จากกรณีปมปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จุดเริ่มต้นที่ ช่องบก จ.อุบลราชธานี จวบจนปัจจุบันที่แม้จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) แต่ทว่าสถานการณ์ต่างๆยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กัมพูชายื่นร้องต่อศาลโลก(International Court of Justice: ICJ )เพื่อขอให้วินิจฉัยพื้นที่พิพาท อันประกอบไปด้วย กลุ่มปราสาทโบราณ 3 แห่งในจ.สุรินทร์ ได้แก่ อย่างปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย และอีกหนึ่งพื้นที่พิพาทคือบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี
วันนี้ "ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมข้อมูลของ 3 ปราสาทสำคัญที่กัมพูชาได้ยื่นเรื่องกับศาลโลก โดยประวัติที่มาที่ไป รวมไปถึงพิกัดของโบราณสถานทั้ง 3 แห่งจะตั้งอยู่ที่ไหน สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ดังนี้
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ระบุว่า ปราสาทตาเมือนธม มีพิกัดทำเลที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองคันนา ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังปราสาทตาเมือนธม หากเดินทางมาจาก อ.เมืองสุรินทร์ ให้ใช้ถนนหมายเลข 214, 24, 2397, 224 และ 2407 รวมระยะทางประมาณ 82.7 กิโลเมตร
ปราสาทตาเมือนธม เป็นปราสาทขนาดใหญ่ก่อสร้างด้วยหินทรายและศิลาแลง 3 องค์ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากลักษณะรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ศิลาจารึก ประติมากรรมรูปเคารพ และลวดลายบนทับหลังที่พบที่ปราสาทแห่งนี้ กล่าวได้ว่า ปราสาทตาเมือนธมเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย สร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ศิลปะขอมแบบบาปวน
ปัจจุบันปราสาทตาเมือนธมได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรแล้ว และโบราณวัตถุบางส่วนจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์
ปราสาทขนาดใหญ่ก่อสร้างด้วยหินทรายและศิลาแลง 3 องค์ ประกอบด้วย
ปราสาทประธานขนาดใหญ่
ปราสาทบริวาร หรือ ปรางค์น้อยมี 2 องค์
บรรณาลัย จำนวน 2 หลัง
ปราสาทประธาน ปรางค์บริวาร และบรรณาลัย มีระเบียงคดล้อมรอบ ซุ้มประตู(โคปุระ) สร้างด้วยหินทราย มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีช่องทางเดินภายในกว้างประมาณ 1.40 เมตร มีซุ้มประตูทั้ง 4 ด้าน โดยซุ้มประตูด้านทิศเหนือ ตะวันออก และตะวันตก มีลักษณะเหมือนกัน ส่วนซุ้มประตูด้านทิศใต้จะมีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นซุ้มประตูหลัก โดยแบ่งออกเป็น 3 คูหา คูหากลางมีแผนผังเป็นรูปกากบาท มีหน้าต่างติดลูกกรงหินและบริเวณระเบียงคดนี้ได้พบศิลาจารึกอักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤตและเขมร ซึ่งเป็นตัวอักษรที่ใช้ในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 มีเนื้อหากล่าวสรรเสริญพระศิวะและกล่าวถึงนามของทาสและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลรักษาเทวสถานแห่งนี้(อ่านแปลโดยนางสาวก่องแก้ว วีระประจักษ์ กองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร)
นอกจากนี้ยังพบท่าน้ำสร้างด้วยหินทรายนอกระเบียงคดด้านทิศใต้ ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร และสระน้ำกรุด้วยศิลาแลงสอบลงไปถึงก้นสระ อยู่บริเวณนอกระเบียงคดทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ปราสาทตาเมือนโต๊ด ตั้งอยู่บ้านหนองคันนา ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มปราสาทตาเมือน ที่ประกอบไปด้วย ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือน และปราสาทตาเมือนโต๊ด โดยพิกัดสถานที่ของปราสาทตาเมือนโต๊ดจะอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธม ประมาณ 750 เมตร และห่างจากปราสาทตาเมือนประมาณ 390 เมตร
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) รวบรวมฐานข้อมูลแหล่งโบราณคดีที่สำคัญในประเทศไทย ระบุว่า ปราสาทตาเมือนโต๊ด มีแผนผังแบบเดียวกับศาสนสถานที่เรียกว่า "อโรคยศาลา" หรือ"ศาสนสถานประจำอโรคยศาลา" โดยประกอบด้วยปราสาทประธาน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และบรรณาลัยอยู่ในกำแพงทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ นอกกำแพงด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยม กรุด้วยศิลาแลง ใช้ประกอบพิธีกรรมหรือกิจกรรมในโรงพยาบาล ส่วนเครื่องบนยอดปราสาททำจากศิลาแลงทรงดอกบัว สะท้อนศิลปกรรมเขมรยุคปลาย นอกจากนั้นแล้วยังพบร่องรอย โคปุระ (ซุ้มประตู) และชานชาลารูปกากบาท เชื่อมพื้นที่ใช้สอย
ศิลาจารึกปราสาทตาเมือนโต๊ด พบ 1 หลักเมื่ออ่านและแปลพบว่าจารึกอักษรขอม ภาษาสันสกฤต ขนาดกว้าง 35 ซ.ม. สูง 116 ซ.ม. หนา 27 ซ.ม. ข้อมูลที่ได้จากศิลาจารึกเป็นข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ กล่าวถึงพระเจ้าศรีชัยวรมัน ว่าเป็นโอรสของพระเจ้าธรณินทรวรมัน เมื่อขึ้นครองราชย์ได้นำความเจริญมาสู่อาณาจักรสมัยพระองค์
ส่วนข้อมูลด้านการปกครองทำให้ทราบว่าสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้กระจายอำนาจการปกครองโดยการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่มาจากส่วนกลาง การรักษาพยาบาลมีความเท่าเทียมกัน มีคำกล่าวที่ปรากฏในจารึกว่า “ทุกข์ของประชาชนเหมือนทุกข์ของพระราชา” ซึ่งข้อมูลด้านศาสนา ทำให้ทราบว่าโรงพยาบาลอยู่ภายใต้บารมีของพระพุทธเจ้าแพทย์ คือ พระพุทธไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา “เทพเจ้าผู้รักษาโรค ซึ่งประกอบด้วยไพฑูรย์แห่งส่องแสง”
จารึกที่พบที่ปราสาทตาเมือนโต๊ดเป็นจารึกทีมีความสำคัญที่ทำให้สามารถสรุปได้ว่าโบราณสถานที่มีรูปแบบเช่นนี้เป็นโบราณสถานที่สร้างขึ้นเป็นศาสนสถานในโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นสำหรับประชาชนตามท้องถิ่นต่างๆในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ดังปรากฏหลักฐานในจารึกปราสาทตาพรหมว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างสถานพยาบาลจำนวน 102 แห่งทั่วพระราชอาณาจักร
สิ่งที่น่าสนใจของปราสาทตาเมือนโต๊ดคือเรือนธาตุของปราสาทประธานสร้างจากศิลาทราย ส่วนยอดสร้างโดยใช้ศิลาแลง การใช้หินทรายอาจเพราะอยู่ใกล้กับแหล่งตัดหินทราย หรืออยู่ใกล้เมืองพระนครอันเป็นเมืองหลวงของเขมรมากกว่าอโรคยศาลอื่นๆที่พบในประเทศไทย ดังนั้นความพิถีพิถันอาจมีมากกว่า
จากหลักฐานการพบที่พักคนเดินทาง หรือศาสนสถานประจำธรรมศาลา และอโรคยศาลาข้างต้น ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างขึ้นตามเมืองสำคัญต่างๆ สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรงประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนเขมรโบราณซึ่งเป็นฮินดูมาเป็นพุทธศาสนามหายาน และย่อมหมายถึงการเป็นที่ยอมรับของประเทศใกล้เคียง
การค้นพบปราสาทตาเมือน ซึ่งเป็นธรรมศาลา หรือศาสนสถานประจำที่พักคนเดินทางใกล้กับปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนโต๊จ ซึ่งเป็นอโรคยศาลา ทำให้ทราบว่าพื้นที่แห่งนี้นอกจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ มาตั้งแต่อย่างน้อยราวพุทธศตวรรษที่ 12 เพราะเป็นที่ตั้งของสวยัมภูวลึงค์ ณ ปราสาทตาเมือนธมแล้ว ยังเป็นเส้นทางสำคัญระหว่างเมืองพระนครกับเมืองพิมาย ซึ่งสัมพันธ์กับร่องรอยแนวถนนโบราณที่พบบริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือนด้วย การปรากฏศาสนสถานเขมรที่มีอายุสมัยต่างกันเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ชุมชนในละแวกกลุ่มปราสาทตาเมือน คงมีขนาดใหญ่ มีความสำคัญ และอยู่ภายใต้วัฒนธรรมเขมรเป็นเวลายาวนาน
ปราสาทตาควาย ตั้งอยู่บริเวณช่องตาควาย ในเขตบ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ทำเลที่ตั้งของปราสาทอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือนธมที่อยู่ห่างไปประมาณ 12 กิโลเมตร
ปราสาทตาควาย ตั้งอยู่บนสันเขาห่างจากหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร ของเทือกเขาพนมดงรัก สร้างในช่วงปลายสมัยนครวัด-ต้นยุคบายน ตัวปราสาทจตุรมุข ก่อด้วยศิลาแลงและศิลาทราย ตัวอาคารไม่มีลวดลายแกะสลักมาก เมื่อเปรียบเทียบกับปราสาทอื่น โครงสร้างยอดปรางค์ลดหลั่น 5 ชั้น ส่วนหลังคามุขก่อเป็นรูปประทุน จรดหน้าบันทั้ง 4 ด้าน ภายในห้องมีประติมากรรม ลักษณะคล้ายสวายยัมภูวลึงค์ 1 ชิ้น สำหรับปราสาทตาควาย อยู่ในการดูแลของของทหารทั้งสองฝ่าย ไทย-กัมพูชา
ที่มาข้อมูล-ภาพ