ไทยเอเชีย แปซิฟิคฯ ติดโซลาร์เซลล์นำพลังงานไฟฟ้าทดแทผลิตเครื่องดื่ม

09 ก.ค. 2565 | 04:39 น.

ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ มุ่งสู่เป้าหมายเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ขนาด 1.2 เมกะวัตต์ นำพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ผลิตเครื่องดื่ม

นายกวี เมฆทรงฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายผลิต บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่  พกัด หรือกลุ่มบริษัททีเอพี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มไฮเนเก้น ไทเกอร์ และเชียส์ กล่าวว่าบริษัทฯ มุ่งสู่เป้าหมายเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ติดตั้งระบบการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ ขนาด 1.2 เมกะวัตต์ ภายใต้โครงการ “TAP’s Brewed by the Sun”เพื่อนำพลังงานสะอาดที่ได้จากแสงอาทิตย์เข้ามาแทนที่การใช้พลังงานเชื้อเพลิงในการผลิตเครื่องดื่ม และส่วนงานอื่นๆ ในโรงเบียร์ โดยตั้งเป้าหมายใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในการผลิตให้ได้ 100% ภายในปี 2025 ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ทั้งหมด 12,600 ตันต่อปี

ไทยเอเชีย แปซิฟิคฯ ติดโซลาร์เซลล์นำพลังงานไฟฟ้าทดแทผลิตเครื่องดื่ม

สำหรับโครงการโซลาร์ฟาร์ม “TAP’s Brewed by the Sun” เป็นการติดตั้งแผง Solar PV ขนาด 1.2 เมกะวัตต์ บนพื้นที่ 10 ไร่ เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในโรงผลิต 

เมื่อระบบพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมผลิตอย่างเต็มศักยภาพ จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าทดแทนคิดเป็น 30% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในโรงผลิต 

ไทยเอเชีย แปซิฟิคฯ ติดโซลาร์เซลล์นำพลังงานไฟฟ้าทดแทผลิตเครื่องดื่ม

เป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในส่วนของกระบวนการผลิตเบียร์ได้ถึง 720 ตัน CO2e ต่อปี หรือ1.48 kgCO2e/HL ตลอดกรอบระยะเวลา 10 ปี โดยสามารถผลิตพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 1,700 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการใช้ในแต่ละปี เทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าของภาคครัวเรือนในตำบลไทรใหญ่จำนวน 736 ครัวเรือนหรือคิดเป็นประมาณ 30% ของครัวเรือนทั้งหมดในตำบลไทรใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่โรงงานเบียร์ตั้งอยู่

การให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ทางบริษัทฯ และโรงผลิตมีแผนการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมทุกมิติทางด้านสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่ม ทั้งในเรื่องของการบำบัดน้ำเสีย การกำจัดของเสียโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม 

 

ล่าสุดกับเป้าหมายในการนำพลังงานสะอาดมาใช้ในการผลิตเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัทฯได้ริเริ่มขึ้นมาตามยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของไฮเนเก้น “Brew A Better World” ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นต่อทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อม  ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานอื่นให้ได้สูงสุด อันเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนของภาคการผลิตให้ได้ภายในเป้าหมายปี 2573 ตามแผนที่เราวางไว้และสอดคล้องกับเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติด้วยเช่นกัน

 

 

ทางด้านนายสุรีย์ จรูญศักดิ์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่ได้เข้าเยี่ยมชมโครงการโซลาร์ฟาร์มกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของทางภาครัฐในเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ของประเทศไทย ซึ่งภาคเอกชนถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนให้แผนยุทธศาสตร์นี้สำเร็จได้ 

 

การหันมาใช้พลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานน้ำล้วนแล้วแต่มีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้ง ณ ที่นั้นๆ โดยภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย มีศักยภาพสูงในการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร มีแสงแดดตลอดทั้งปี ทำให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่ที่มีความเข้มข้นของแสงแดดถึง 20% นั้นจะเป็นโซนภาคกลางตอนล่าง หรือภาคใต้ ยิ่งบริเวณไหนที่มีความเข้มข้นของแสงแดด ก็จะยิ่งทำให้แผงโซลาร์เซลล์นั้นสามารถที่จะผลิตไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น

 

ในกรณีของการติดตั้งแผงโซลาร์ของทางบริษัทฯ นั้น ถือว่าติดตั้งบนพื้นที่ที่ดีและสามารถต่อยอดไปได้อีกเยอะ ซึ่งในอนาคต ถ้าสามารถเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนได้ถึง 100% จะช่วยทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มีค่าเป็นศูนย์โดยสุทธิ ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทั้งโลกให้ความสำคัญ และถือเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมของภาคเอกชนไทยที่เห็นถึงความสำคัญในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากถ่านหิน