ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำของ"ผู้ป่วยเบาหวาน" อาการ-อันตราย-การป้องกัน

02 ก.ค. 2566 | 19:09 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.ค. 2566 | 19:23 น.

ผู้ป่วยเบาหวานที่กำลังทานยาหรือใช้อินซูลินในการรักษาและควบคุมน้ำตาลในเลือด บางครั้งอาจประสบภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ อาการมีตั้งแต่มือสั่น ใจสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น หิว ไปจนถึงเพลียและหมดสติ  

 

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) หมายถึง ภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 60 มก. /ดล. หรือผู้เป็น เบาหวาน บางราย เมื่อ ระดับน้ำตาลในเลือด ต่ำกว่า 70 มก./ดล. อาจมีอาการได้หากมีประวัติน้ำตาลสูงมากมานาน

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ มักพบได้ในผู้เป็นเบาหวานที่รับประทานยา หรือฉีดอินซูลินอยู่ โดยเฉพาะคนที่ควบคุมเบาหวานได้ดี ซึ่งการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกิดจากความไม่สมดุลระหว่างน้ำตาลกับระดับอินซูลินในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง

อาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

สัญญาณที่บ่งบอกว่า กำลังเกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้แก่

  • เหงื่อออกมาก ตัวเย็น ใจสั่น หัวใจเต้นแรงและเร็ว
  • หิวมาก มือสั่น อารมณ์หงุดหงิดง่าย
  • ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด ตาลาย ถ้าอาการรุนแรงอาจช็อค หรือหมดสติ
  • ถ้าเกิดเวลากลางคืน อาจมีอาการปวดมึนศีรษะ มึนงง เหงื่อออกมาก ขณะนอนหลับ ฝันร้าย เมื่อตื่นขึ้นมาสังเกตว่าเสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เมื่อน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยเบาหวานอาจปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด ตาลาย บางครั้งเหงื่อออกมาก ตัวเย็น

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

  • รับประทานอาหารน้อยกว่าปกติ จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เช่น คลื่นไส้ อาเจียน พลาดเวลาอาหารหลัก หรือรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
  • ฉีดอินซูลินหรือรับประทานยามากเกินไป
  • ออกกำลังกายหักโหม หรือทำงานหนักกว่าปกติ
  • การรับประทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วงท้องว่าง ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติได้

การป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

  1. รับประทานอาหารให้เป็นเวลาและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ไม่ควรงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง
  2. ฉีดยา หรือรับประทานยาตามแพทย์สั่ง (ทั้งปริมาณยาและเวลา)
  3. หากจำเป็นต้องออกกำลังกายนานกว่า 3 นาที ควรรับประทานอาหารว่าง เช่น นม ขนมปัง หรือผลไม้ รองท้องประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนออกกำลังกาย
  4. ปรึกษาแพทย์ในกรณีที่ต้องรับประทานยารักษาโรคอื่นๆร่วมด้วย เพราะยานั้นอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
  5. แจ้งบุคคลใกล้ชิดให้ทราบว่าท่านเป็นเบาหวาน และอธิบายวิธีช่วยเหลือ เมื่อมีอาการผิดปกติ
  6. ควรมีลูกอม น้ำตาลก้อน หรือน้ำผลไม้พกติดตัวไว้เพื่อเดินทางยามฉุกเฉิน
  7. ถ้ามีเครื่องเจาะน้ำตาลปลายนิ้วที่บ้าน ควรเจาะเลือดเช็คระดับน้ำตาลอย่างสม่ำเสมอ

ผู้ป่วยเบาหวานควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลาและเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย

การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ     

  • ถ้าอาการไม่มาก และเกิดขึ้นใกล้เวลาอาหาร ควรรีบรับประทานทันที หรือรีบรับประทานของว่าง เช่น ขนมปัง นม ผลไม้รสหวานก่อน
  • กรณีที่มีอาการค่อนข้างมาก แต่ยังรู้สึกตัว ให้ดื่มน้ำหวาน ½ - 1 แก้ว หรืออมลูกอม 1 – 2 เม็ด หรือน้ำตาล 2 ก้อน อาการควรจะดีขึ้นภายใน 5 – 10 นาที แล้วรีบรับประทานข้าวหรืออาหารประเภทแป้ง
  • แต่ถ้าสังเกตอาการตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้น สามารถดื่มน้ำหวานซ้ำอีก 1 แก้วทันที
  • ถ้ามีอาการรุนแรงถึงขั้นหมดสติไม่รู้สึกตัว ห้ามให้ลูกอม หรือดื่มน้ำหวาน เพราะอาจทำให้สำลักได้ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ใกล้ที่สุด แล้วแจ้งแพทย์ที่ดูแลด้วยว่าเป็นเบาหวาน