"วันเอดส์โลก" นายกฯ ย้ำ เจตนารมณ์ยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573

01 ธ.ค. 2565 | 07:20 น.

"วันเอดส์โลก" 1 ธ.ค. นายกฯ ย้ำ เจตนารมณ์ยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 พร้อมใช้เวทีเจ้าภาพประชุมโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ลดการตีตราและเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อ

1 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นวันเอดส์โลก นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ร่วมรณรงค์ "วันเอดส์โลก" (World AIDS Day) ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ตรงกับวันที่ 1 ธ.ค. ของทุกปี เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคเอดส์ การยอมรับ และเข้าใจผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วโลก โดยสนับสนุนการรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ ให้ประชาชนมีมาตรการในการป้องกันตนเองที่ถูกต้องและสามารถนำไปปฏิบัติได้ในชีวิตประจำวัน

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ของประเทศไทยที่มุ่งมั่นที่จะยุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 โดยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แห่งชาติว่าด้วยการยุติปัญหาเอดส์ พ.ศ.2560-2573 มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ "ไม่ติด-ไม่ตาย-ไม่ตีตรา" สู่การแก้ไขปัญหาตามยุทธศาสตร์

1.ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ เหลือไม่เกิน 1,000 รายต่อปี

2.ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี เหลือปีละไม่เกิน 4,000 ราย

3.ลดการเลือกปฏิบัติ อันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวี และเพศภาวะลงจากเดิมร้อยละ 90 โดยมีหลักการพื้นฐาน สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ มีความเสมอภาคทางเพศ

รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อยุติปัญหาเอดส์ในระยะยาว 6 ยุทธศาสตร์

1.มุ่งเน้นและเร่งรัดจัดชุดบริการที่มีประสิทธิผลสูงให้ครอบคลุมพื้นที่และประชากรที่อยู่ในสภาวะเสี่ยง

2.ยกระดับคุณภาพและบูรณาการดำเนินงานป้องกันให้เข้มข้นและยั่งยืน

3.พัฒนาและเร่งรัดการรักษา ดูแลและช่วยเหลือทางสังคม ให้มีคุณภาพรอบด้าน

4.ปรับภาพลักษณ์ความเข้าใจทั้งระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน มีกลไกการคุ้มครองสิทธิ์เพื่อลดการรังเกียจ กีดกัน การเลือกปฏิบัติ

5.การลงทุนเพื่อประสิทธิภาพการจัดการในทุกภาคและทุกระดับ

6.ส่งเสริมและพัฒนาการเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและงานวิจัยอย่างมีประสิทธิภาพ

 

สำหรับปี 2565 ประเทศไทยได้ทำหน้าที่ในการเป็นประธานคณะกรรมการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ หรือ UNAIDS PCB ในโอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้เป็นผู้แทนประเทศไทยผลักดันผ่านกิจกรรมต่างๆ ให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญใน 3 ประเด็น ได้แก่

  • การปกป้องวัยรุ่นคนหนุ่มสาว ให้พ้นจากโรคเอดส์ เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่เป็นทั้งอนาคตของประเทศและของโลก
  • การเร่งให้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าครอบคลุมถึงบริการเอชไอวี/เอดส์
  • การส่งเสริมให้ลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อ ทั้งในการให้บริการสุขภาพ สถานศึกษา ที่ทำงาน และชุมชน

​ทั้งนี้ ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม UNAIDS PCB ครั้งที่ 51 ซึ่งจะมีประเทศสมาชิก 22 ประเทศ องค์กรไม่แสวงหากำไร (NGO) และหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน (Co-Sponsor)เข้าร่วม และนายอนุทิน จะเป็นประธานการประชุม ซึ่งในการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ไทยจะผลักดันให้ทั่วโลกเห็นความสำคัญของการยุติการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกและการดูแลให้เข้าถึงการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี

 

พร้อมเน้นย้ำในประเด็นการไม่เลือกปฏิบัติและการลดการตีตรา ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญที่ลดปัญหาภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุขโลกและการลดทอนศักยภาพของประเทศจากปัญหาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้เป็นโรคเอดส์ได้​