กรมการแพทย์เปิดระบบดิจิทัล ยกระดับบริจาคอวัยวะ คืนชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วย

14 ต.ค. 2568 | 06:05 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2568 | 06:08 น.

กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี เปิดใช้งาน National Organ & Eye Donor Dashboard ระบบดิจิทัลบันทึก-วิเคราะห์ข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะ-ดวงตาแบบเรียลไทม์ เชื่อมโยง 134 โรงพยาบาลเป้าหมาย สนับสนุนนโยบาย "คืนชีวิตใหม่แก้ไขความพิการ" สร้างความเท่าเทียมการเข้าถึงบริการสุขภาพขั้นสูงทั่วทุกภูมิภาค

KEY

POINTS

  • กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี เปิดตัวระบบดิจิทัล "National Organ & Eye Donor Dashboard" เพื่อรวบรวมและติดตามข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะและดวงตาในเชิงรุก
  • ระบบดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานการบันทึกข้อมูลให้เป็นระบบเดียวกันทั่วประเทศ ใช้เป็นศูนย์กลางข้อมูลสำหรับวิเคราะห์ วางแผน และสนับสนุนการตัดสินใจ
  • คาดหวังว่าระบบใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มจำนวนผู้บริจาคอวัยวะและดวงตา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ขั้นสูง

13 ตุลาคม 2568 นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า กรมการแพทย์โดยโรงพยาบาลราชวิถีได้จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการบันทึกข้อมูลในโปรแกรมบันทึกข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะสมองตายเชิงรุกและผู้บริจาคดวงตาเชิงรุก (National Organ & Eye Donor Dashboard) Update version ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง รพ.ราชวิถี เครือข่ายระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาตาและเครือข่ายระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ

ในการร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อสร้างระบบ National Donor Dashboard เป็นระบบสำหรับรวบรวมและติดตามข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะและดวงตาในเชิงรุกเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย "คืนชีวิตใหม่แก้ไขความพิการ"

จัดตั้งสถาบันเฉพาะทางด้านการรับบริจาค จัดหาอวัยวะและการปลูกถ่ายอวัยวะของนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เพื่อกระจายบริการทางการแพทย์ขั้นสูงสู่ภูมิภาค ลดความเลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ขั้นสูง เดินหน้าเปลี่ยนระบบสุขภาพไทยให้เป็นระบบคุณภาพ เพื่อสุขภาพดีของประชาชน

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์

นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.พัฒนาระบบ สร้างระบบสำหรับบันทึกและติดตามข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะและดวงตาในเชิงรุก 2.เพื่อเป็นเครื่องมือกลางใช้ในการรวบรวม วิเคราะห์ และรายงานผลการดำเนินการ 3.เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับผู้บริหาร บุคลากรทางการแพทย์ และผู้กำหนดนโยบาย 4.เพื่อเริ่มความร่วมมือระหว่าง 134 โรงพยาบาลเป้าหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบันทึกข้อมูลให้มีมาตรฐานเดียวกันในการทำงาน

ผลลัทธ์ที่คาดหวัง ได้แก่ 1.ได้ระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ มี Donor Dashboard ที่สามารถบันทึกและติดตามข้อมูลการบริจาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.มีข้อมูลกลางที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ วางแผน และพัฒนางานด้านการรับบริจาคอวัยวะและดวงตา 3.ลดการสูญเสียของข้อมูล และสร้างมาตรฐานการบันทึกข้อมูลให้เป็นระบบเดียวกัน 4.การตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำผู้บริหารและผู้ปฎิบัติงานสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเชิงนโยบายได้ดียิ่งขึ้น และ 5.เพิ่มจำนวนผู้บริจาค ส่งผลให้มีจำนวนผู้อวัยวะและดวงตาในภาพรวมของประเทศเพิ่มขึ้น

นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี

แพทย์หญิงสมพร จันทรา นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี หัวหน้าศูนย์ประสานงานปลูกถ่ายกระจกตาเขตสุขภาพที่ 13 กรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวทางการบันทึกข้อมูลในโปรแกรมบันทึกข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะสมองตายเชิงรุกและผู้บริจาคดวงตาเชิงรุก (National Organ & Eye Donor Dashboard) Update version ประกอบด้วย ประธานเขตสุขภาพที่ 1-13 เลขานุการเขตสุขภาพที่ 1-13 และผู้บันทึกข้อมูลแต่ละโรงพยาบาลของสาขาตาและสาขาการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ

มีผู้รับผิดชอบโครงการจากโรงพยาบาลราชวิถี ได้แก่ แพทย์หญิงสมพร จันทรา นายแพทย์เชี่ยวชาญ  แพทย์หญิงกรทิพย์ ผลโภค นายแพทย์เชี่ยวชาญ  นางรัชนีพร ฐานธรรม เจ้าพนักงานเวชสถิติชำนาญการ และ นายกฤษณพันธ์ ชลารัตน์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์

ทั้งนี้ โรงพยาบาลราชวิถีให้ความสำคัญกับระบบสำหรับรวบรวมและติดตามข้อมูลผู้บริจาคอวัยวะและดวงตาในเชิงรุกและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อยกระดับคุณภาพบริการทางการแพทย์และสนับสนุนการพัฒนาระบบผลการดำเนินงานด้านการรับบริจาคอวัยวะและดวงตาในเชิงรุกของประเทศอย่างมั่นคงและยั่งยืนตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข

มีเป้าหมายเพื่อกระจายบริการทางการแพทย์ขั้นสูงสู่ภูมิภาค ลดความเลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ขั้นสูง ดังนั้น "การบริจาคอวัยวะและดวงตาคือการส่งต่อชีวิตใหม่และความหวังแก่ผู้ป่วย" หลายครอบครัวในสังคมจึงเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าตลอดไป