สธ. ชงบอร์ดแพทยสภา เพิ่มค่าตอบแทนแพทย์ แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร

11 ต.ค. 2568 | 09:46 น.

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เสนอคณะกรรมการแพทยสภา 6 แนวทางจัดสรรแพทย์ใช้ทุนปี 2569 เพิ่มค่าตอบแทนพิเศษ หลังพบแพทย์ปฏิบัติงานจริงเพียง 72% ลดปัญหาขาดแคลนในบางพื้นที่

KEY

POINTS

  • กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอแนวทางต่อแพทยสภาเพื่อแก้ปัญหาแพทย์ขาดแคลน โดยมีข้อเสนอหลักคือการเพิ่มค่าตอบแทนพิเศษสำหรับแพทย์ในพื้นที่ที่มีภาระงานสูง
  • ปัจจุบัน สธ. มีแพทย์ปฏิบัติงานจริงเพียง 72% ของกรอบอัตรากำลัง โดยบางจังหวัด เช่น บึงกาฬ มีแพทย์ไม่ถึง 50% และมีแนวโน้มแพทย์ลาออกเพิ่มขึ้น
  • นอกจากค่าตอบแทน ยังมีข้อเสนอสร้างแรงจูงใจอื่น ๆ เช่น ให้สิทธิ์แพทย์ในพื้นที่ขาดแคลนสามารถเลือกเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางได้เร็วขึ้น และปรับปรุงการจัดสรรทุนแพทย์ชนบท

วันนี้ (11 ตุลาคม 2568) นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอแนวทางการจัดสรรแพทย์ใช้ทุนปีงบประมาณ 2569 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา และรายงานสถานการณ์และแนวทางการจัดสรรแพทย์ผู้ทำสัญญาชดใช้ทุนของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความเข้าใจและหาทางออกร่วมกันในการกระจายแพทย์ลดปัญหาขาดแคลนในบางพื้นที่ 

ทั้งนี้ในปัจจุบันพบว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ปฏิบัติงานจริง 25,490 คน หรือ 72% ของกรอบอัตรากำลังแพทย์ปี 2565-2569 ที่มี 35,578 อัตรา โดยเขตสุขภาพที่ 2, 4 และ 8 มีแพทย์ปฏิบัติงานจริงเพียง 61%, 63% และ 66% ตามลำดับ และมี 10 จังหวัด ที่มีแพทย์ปฏิบัติงานจริงน้อยกว่า 60% ได้แก่ บึงกาฬ 44% สระแก้ว 48% เลย 54% อ่างทอง, แม่ฮ่องสอน 55% ตาก, เพชรบูรณ์, ปทุมธานี 58% ระนองและน่าน 59% 

หากเทียบสัดส่วนแพทย์ต่อประชากร จังหวัดที่ขาดแคลนแพทย์มากที่สุด คือ บึงกาฬ สมุทรปราการ หนองบัวลำภู นครพนม นนทบุรี สระแก้ว เลย ชัยภูมิ และแม่ฮ่องสอน ขณะที่แนวโน้มแพทย์ลาออกเพิ่มขึ้นจาก 789 คน ในปีงบประมาณ 2563 เป็น 1,201 คน ในปีงบประมาณ 2567

นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า ปัญหาในการจัดสรรพื้นที่ปฏิบัติงานของแพทย์ผู้ทำสัญญาฯ ในปี 2568 พบว่า เมื่อจัดสรรให้เขตสุขภาพที่ 8 และ 10 เต็มศักยภาพ ทำให้บางเขตสุขภาพ เช่น เขตสุขภาพที่ 4, 5 และ 6 ได้รับแพทย์ไปฝึกเพิ่มพูนทักษะปีที่ 1 ไม่เพียงพอ จึงต้องจัดสรรทดแทนด้วยแพทย์ที่ไม่ใช่ทุนรัฐบาลและแพทย์นอกสังกัด (ฝากฝึก) 

รวมถึงมีแพทย์ผู้ทำสัญญาฯ ที่ผ่านการคัดเลือกและได้จัดสรรโควตาแล้ว แต่คุณสมบัติไม่ครบถ้วนจำนวนมาก ทำให้โควตาในบางเขตสุขภาพลดลงในรอบจัดสรรปกติ ต้องจัดสรรทดแทนในรอบพิเศษและหลังรอบพิเศษ จึงมีข้อเสนอแนวทางการจัดสรรแพทย์ใช้ทุนปีงบประมาณ 2569 ดังนี้

1. ปรับการจัดสรรให้พื้นที่ขาดแคลนเป็นอันดับแรก โดยมองภาพรวมเป็นระดับจังหวัด 

2. ปรับระเบียบการจัดสรรทุน เช่น ทุนโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) / โครงการกระจายแทพย์หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOD) สามารถข้ามเขตหรือจังหวัดไปยังจังหวัดที่ขาดแคลนแพทย์ได้ หรือปรับกฎระเบียบการชดใช้ทุน 

3. ใช้หลักการ One Province/One Region One Hospital จัดสรรอัตรากำลังแพทย์ในภาพรวม แพทย์ทั่วไปหรือเฉพาะทางสามารถย้ายข้ามอำเภอหรือจังหวัดมาช่วยเหลือในพื้นที่ขาดแคลน 

4. สนับสนุนเรื่องค่าตอบแทน/ความก้าวหน้าขั้นพิเศษ โดยเน้นพิจารณาภาระงานและผลจากการทำงาน ให้พื้นที่ขาดแคลนแพทย์และมีภาระงานมากได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ 

5. สร้างแรงจูงใจเข้ารับการศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางในพื้นที่ขาดแคลนแพทย์เป็นกรณีพิเศษ เช่น การศึกษาต่อที่ใช้ระยะเวลาชดใช้ทุนสั้นลง หรือมีคะแนนพิเศษในการเข้ารับการศึกษาต่อ 

6. สนับสนุนงบประมาณในภาพรวม เช่น กองทุนระดับเขตเพื่อเพิ่มค่าตอบแทนหรือช่วยสนับสนุนการทํางานในส่วนของแพทย์ในพื้นที่ขาดแคลนมากขึ้น

นพ.สมฤกษ์ กล่าวว่า นักศึกษาแพทย์ผู้ทำสัญญาฯ ที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษาปี 2568 (ปีงบประมาณ 2569) มี 2,795 คน คณะกรรมการจัดสรรฯ อนุมัติโควตาเมื่อ วันที่ 5 กันยายน 2568 ให้กระทรวงสาธารณสุข 1,980 อัตรา อยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 1,973 อัตรา จึงได้เสนอว่าพื้นที่ขาดแคลนแพทย์ให้มีมาตรการเพิ่มค่าตอบแทน, ทำงานครบ 2 ปี เลือกศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางสาขาหลักได้ 

หากทำงานครบ 3 ปี เลือกได้ทั้งสาขาหลักและสาขารอง, ปรับหลักเกณฑ์การจัดสรรทุนรัฐบาล CPIRD, ปรับเปลี่ยนการหมุนเวียนของแพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ไปยังพื้นที่ขาดแคลนหรือต้องการเพิ่มศักยภาพในพื้นที่ และเพิ่มคุณภาพการเรียนการสอนในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 

ส่วนพื้นที่ไม่ขาดแคลน ให้แพทย์โรงพยาบาลชุมชนในปี 2 และ 3 สามารถมาปฏิบัติงานในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปได้  และปรับการจัดสรรแพทย์เพิ่มพูนทักษะในปี 2 และ 3