รมว.สธ. ลุยปั้น Super App รวมทุกบริการสุขภาพในที่เดียว

08 ต.ค. 2568 | 09:45 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ต.ค. 2568 | 09:45 น.

รมว.พัฒนา หารือร่วมโรงเรียนแพทย์ -กทม.-ประกันสังคม-หน่วยงานระบบสุขภาพ รุกพัฒนา 'Super App' ด้านสุขภาพ รวมทุกบริการในที่เดียว ตั้งเป้าเปิดตัวเฟสแรกสิ้นปี 68 เป็นของขวัญคนไทยตามนโยบาย Quick Win ใน 4 เดือน

KEY

POINTS

  • กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้าพัฒนาแอปพลิเคชัน "หมอพร้อม" ให้เป็น Super App ด้านสุขภาพ เพื่อรวมบริการจากแอปภาครัฐกว่า 50 แอปไว้ในที่เดียว
  • Super App จะเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพทั่วประเทศแบบไร้รอยต่อ ให้บริการครบวงจรตั้งแต่ตรวจสอบสิทธิ, นัดหมายแพทย์, ดูประวัติการรักษา ไปจนถึงการปรึกษาแพทย์ทางไกล
  • มีการร่วมมือกับหน่วยงานสำคัญต่างๆ เพื่อทลายกำแพงข้อมูลระหว่างสถานพยาบาล โดยตั้งเป้าเปิดให้ประชาชนใช้งานเฟสแรกภายในสิ้นปี 2568

8 ตุลาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในช่วง 4 เดือน (Quick Win) หนึ่งในนั้นมีเรื่องของ "หมอไม่ล้า ประชาชนไม่รอ เชื่อมต่อทุกบริการผ่านเทคโนโลยี" โดยจะพัฒนาแอปพลิเคชั่น "หมอพร้อม" ให้เป็น "หมอพร้อม+" ซึ่งจะเป็น Super App ด้านสุขภาพหลักที่ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ตั้งแต่การตรวจสอบสิทธิ, นัดหมายแพทย์, ดูประวัติการรักษา, รับยา, ปรึกษาแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ไปจนถึงข้อมูลส่งเสริมสุขภาพ

มีเป้าหมายสูงสุด คือ การยุติความสับสนจากแอปพลิเคชันด้านสุขภาพของภาครัฐที่มีมากกว่า 50 แอปพลิเคชันในปัจจุบัน สู่การเป็น "Super App" เพียงแอปพลิเคชันเดียว เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเป็นระบบเดียวทั้งประเทศภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์

ล่าสุดตนเองพร้อมด้วย นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขประชุมหารือการพัฒนา Super App เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการรักษาพยาบาลทั่วกรุงเทพมหานคร ร่วมกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เป็นเสาหลักของระบบสุขภาพประเทศไทย ทั้งโรงเรียนแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลรามาธิบดี, กรุงเทพมหานคร, โรงพยาบาลราชวิถี, กรมการแพทย์, กรมอนามัย, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน, สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฯ และแพทยสภา

"นี่คือจุดเริ่มต้นของการปฏิรูประบบสุขภาพดิจิทัลครั้งสำคัญที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง หลักคิดนี้ได้รับการตอบรับในระดับสูงจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนจากกระทรวงแรงงาน ซึ่งจะทำให้ข้อมูลและสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนกว่า 10 ล้านคน ถูกเชื่อมต่อเข้ากับระบบสุขภาพแห่งชาติได้อย่างสมบูรณ์

หัวใจหลักของความร่วมมือนี้ คือ การทลายกำแพงข้อมูลระหว่างสถานพยาบาล ทำให้เกิดการเชื่อมโยงประวัติสุขภาพของผู้ป่วยแบบไร้รอยต่อ แพทย์จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการรักษาได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน ลดความซ้ำซ้อนในการสั่งยาและการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วย

ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ประชาชนจะได้ใช้บริการเฟสแรกของ Super App ภายในสิ้นปี 2568 อย่างแน่นอนเพื่อเป็นของขวัญและยกระดับคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพให้กับคนไทยทุกคน