KEY
POINTS
จากปัญหาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งส่งผลกระทบกับการให้บริการประชาชนและโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศนั้น
ล่าสุด ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมโรงพยาบาลสถาบันกรมการแพทย์ และ คณะกรรมการโรงพยาบาลในกลุ่ม สถาบันแพทย์แห่งประเทศไทย หรือ ยูฮอสเน็ต (Uhosnet) ร่วมลงนามออกจดหมายเปิดผนึกที่ 1/2569 ถึง นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เรื่อง ขอความเป็นธรรมให้หน่วยบริการภาครัฐ
สืบเนื่องจากการบริหารจัดการงบผู้ป่วยในของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีปัญหากระทบต่อสถานการณ์การเงินของโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศมาตลอด ทั้งปัญหาการกำหนดอัตราจ่ายเพียง 8,350 บาทต่อ 1 น้ำหนักสัมพัทธ์ซึ่งต่ำมากเพียง 63% ของต้นทุน (ต้นทุนที่มีการวิจัยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือ 13,240 บาทต่อ 1 น้ำหนักสัมพัทธ์) และยังมีการเรียกเงินที่จ่ายไปแล้วคืน ตอนปลายปีงบประมาณมาณ 2 ปีงบประมาณปี 2568 ทาง สปสช.ได้ยอมรับในหลักการที่จะคงอัตราจ่ายที่ 8,350 บาทและมีการเสนอของบกลางจากรัฐบาลมาแก้ปัญหางบไม่เพียงพอ
เนื่องจากมีผู้มารับบริการมากเกินกว่าที่คาดการณ์แต่เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568 ทาง สปสช. ได้จัดส่งยอดงบผู้ป่วยในตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2568 ถึง 15 กันยายน 2568 ถึงทุกโรงพยาบาลแต่กลับมีการดำเนินการขัดกับที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ตกลงไว้ทั้งในที่ประชุมทุกคณะ และทั้งในสื่อสาธารณะต่าง ๆ โดยมีการคำนวนย้อนกลับ Rerun ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้อัตราจ่ายลดลงเหลือไม่ถึง 7,000 บาทต่อ 1 น้ำหนักสัมพัทธ์ในหลายโรงพยาบาล และมีการดึงเงินคืนจำนวนมากในทุกโรงพยาบาล
นอกจากนั้นสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยังมีการนำผลตรวจสอบคุณภาพเวชระเบียนมาขยายผล 33 เท่าเพื่อหักเงินเพิ่มจากโรงพยาบาลอีกด้วยหน่วยบริการสาธารณสุข จึงขอเรียกร้องต่อท่านให้ช่วยดำเนินการ ดังต่อไปนี้
อนึ่ง การบริหารจัดการงบผู้ป่วยในนั้น ปัจจุบันเป็นการบริหารแบบงบปลายปิดอยู่แล้ว โดยคำนวณจ่ายในอัตราเดียวแบบกลุ่มโรค (DRG) ไม่ว่าโรงพยาบาลจะใช้ยา เทคโนโลยีการรักษา มากน้อยเท่าใดก็ตาม จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะบริหารงบปลายปิดแบบซ้ำซ้อนอีก