รมว.สาธารณสุข ยืนยัน สปสช. เร่งแก้ปัญหาหนี้ รพ.มงกุฎวัฒนะ

17 ต.ค. 2568 | 10:35 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2568 | 10:35 น.

รมว.สาธารณสุข ยืนยัน สปสช. ไม่นิ่งนอนใจ เร่งแก้ไขปัญหาหนี้กับ รพ.มงกุฎวัฒนะ หลังประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกบัตรทอง

KEY

POINTS

  • รมว.สาธารณสุขยืนยันว่า สปสช. กำลังเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งเกิดจากความคลาดเคลื่อนของข้อมูล
  • สปสช. ได้จัดทำแผนรองรับผู้ป่วยบัตรทองที่ได้รับผลกระทบ หลังจากโรงพยาบาลประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยนอก
  • มีการจัดตั้งหน่วยบริการชั่วคราวและจุดบริการเฉพาะกิจที่โรงแรมใกล้โรงพยาบาล เพื่อให้คำแนะนำและประสานส่งต่อผู้ป่วยไปรับบริการที่อื่น

17 ตุลาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาหนี้ระหว่าง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กับ รพ.มงกุฎวัฒนะว่า ปัญหาตรงนี้ สปสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังเร่งแก้ปัญหาในการให้บริการอยู่ จากที่ได้รับรายงานอาจมีความคลาดเคลื่อนทำให้มีข้อถกเถียงกันในเรื่องของข้อมูลต่าง ๆ  ซึ่งก็มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในประเด็นที่ยังมีข้อจำกัด ความเห็นที่ไม่ตรงกัน ตนเองกับ ปลัดสธ. จะพยายามเข้าไปช่วย เข้าไปดูในรายละเอียดต่อไป

"รับรองว่า ทางสปสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับประเด็นต่าง ๆ ที่ยังไม่ลงตัว" นายพัฒนา รมว.สาธารณสุข กล่าว 

อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า ระหว่างนี้ สปสช. ได้ดำเนินการแผนรองรับกรณีหลังจากที่ รพ.มงกุฎวัฒนะประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทองตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม โดย พ.ท.ทพ.ธนศักดิ์ ถัมภ์บรรฑุ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช. เขต 13 กทม.) เปิดเผยว่า มีหน่วยบริการชั่วคราวไว้รองรับผู้ได้รับผลกระทบเบื้องต้น

สำหรับกรณีมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ให้ใช้บริการที่หน่วยบริการนวัตกรรม คลินิกชุมชนอบอุ่น และศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ชั่วคราว โดยสปสช. ได้เชิญหน่วยบริการ และ อสส. ในพื้นที่ 8 เขต ที่ประชากร รพ.มงกุฎวัฒนะอาศัยอยู่มากที่สุด มาหารือร่วมจัดบริการและให้ข้อมูลแก่ประชาชน

นอกจากนี้ สปสช. ได้กำหนดให้มีการเบิกจ่ายโดยใช้ OP Anywhere แต่สำหรับผู้มีสิทธิบัตรทองที่อาจจะยังไม่ทราบข่าวการหยุดให้บริการผู้ป่วยนอกสิทธิบัตรทองของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะและไปที่โรงพยาบาลแล้วถูกแนะนำให้ย้ายสิทธิ์ หรือผู้ป่วยที่ทราบข่าวแล้วแต่มีความจำเป็นต้องไปรับบริการและไม่ทราบว่าจะต้องไปที่ไหน 

สามารถมาที่จุดบริการเฉพาะกิจของ สปสช. ณ ชั้น 1 โรงแรมจัมโบเทล ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้ตั้งแต่วันที่ 16-24 ต.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. เพื่อรับคำแนะนำในการใช้สิทธิบัตรทอง การรับบริการประเมินส่งตัว  และจะมีรถรับส่งจากมูลนิธิเส้นด้ายเพื่อส่งตัวผู้ป่วยไปรับบริการในโรงพยาบาลรับส่งต่อตามความเหมาะสม

นอกจากนี้ผู้มีสิทธิบัตรทองยังมีทางเลือกอื่น ๆ ในการเข้ารับบริการ โดยหากมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย สามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการนวัตกรรม ซึ่งจะมีทั้งร้านยา คลินิกเวชกรรม คลินิกทันตกรรม คลินิกแพทย์แผนไทย คลินิกกายภาพ คลินิกเทคนิกการแพทย์ และคลินิกพยาบาลและการผดุงครรภ์ โดยผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถค้นหาหน่วยบริการนวัตกรรมใกล้บ้านได้ หรือสังเกตได้จากโลโก้สีแดง เขียนว่า "30 บาทรักษาทุกที่" ติดอยู่ที่ด้านหน้าหน่วยบริการ 

ทั้งนี้ สำหรับการรับบริการที่หน่วยนวัตกรรม ผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถรับบริการโดยใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวในการยืนยันตัวตนและไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เนื่องจาก สปสช. จะจ่ายเงินให้แก่หน่วยบริการนวัตกรรมแทนผู้ป่วย 320 บาท/ครั้ง รับบริการได้ไม่เกิน 2 ครั้ง/คน/เดือน หรือหากไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิอื่น ๆ รวมถึงศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ ก็จะจ่ายผ่าน OP Anywhere ได้ตามจริง ไม่เกิน 200 บาท/ครั้ง

นอกจากนี้ ในกรณีที่อาการป่วยมีความซับซ้อน จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลทุติยภูมิขึ้นไป ทางจุดบริการเฉพาะกิจของ สปสช. จะคัดกรอง และจัดรถรับส่งไปรับการรักษาต่อในโรงพยาบาลสังกัด กทม. และโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข คือ โรงพยาบาลบุษราคัมจิตการุณย์ โรงพยาบาลราชวิถี 2 และโรงพยาบาลปากเกร็ดต่อไป

ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิบัตรทองมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความสะดวกใดๆ สามารถติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อสอบถามหรือขอคำแนะนำได้ตลอด 24 ชั่วโมง