กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.สระบุรี จ.นครปฐม และ จ.พระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติการจับกุมกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ในพื้นที่ ตรวจยึด อายัด ยาสำเร็จรูป เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และวัตถุดิบจำนวนมาก
หากนำไปผลิตเป็นยาสำเร็จรูปได้ทั้งหมด จะมีมูลค่ากว่า 22,000,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ท.พีระ พันธุวงศ์ สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีการเฝ้าระวังการใช้กลุ่มยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ หรือยาบางชนิดมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยนำมาผสมกับน้ำกระท่อมดื่มเพื่อความสร้างความมึนเมาและเสพติดเป็นจำนวนมาก หรือที่เรียกกันว่า 4X100 ส่งผลให้เกิดการลักลอบผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยการเสพยาเสพติดชนิดนี้ เป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มวัยรุ่นยกระดับการเสพสารเสพติดในรูปแบบอื่นที่รุนแรงมากขึ้นได้ กอปรกับการตรวจพื้นที่ร่วม อย.ตรวจร้านขายยากลุ่มเสี่ยง เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ซึ่งพบยาปลอมในร้านขายยา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสืบสวนหาข่าวพบว่า มีการลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอมและทราบถึง 2 กลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอม ว่ามีการลักลอบผลิตและบรรจุอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.สระบุรี จ.นนทบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการขายยาแก้ไอปลอม 2 เครือข่าย จำนวน 5 จุด ดังนี้
วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น
1. สถานที่ผลิตและแบ่งบรรจุ โกดังไม่ทราบเลขที่ ม.7 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดยาแก้ไอปลอม วัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต
2. สถานที่ผลิต(ต้มยาแก้ไอ) โกดังเลขที่ 19/125 ซ.หมู่บ้านศรีเพชรการเคหะ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดวัตถุดิบ ขวดบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ในการผลิต ที่ใช้ในการต้มยาแก้ไอ
โดยทั้ง 2 จุดดังกล่าวมียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 20,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,000,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน
วันที่ 12 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น
3. สถานที่ผลิตและบรรจุ บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 6 ต.พุแค อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ตรวจยึดยาแก้ไอปลอม วัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต
โดยจุดดังกล่าวมียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 20,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,000,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน
4. โกดังแห่งหนึ่ง หมู่ 2 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี สถานที่เก็บวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม ตรวจยึด
วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เข้าตรวจค้น
5. โกดังแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สถานที่เก็บวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตยาแก้ไอปลอม ตรวจยึด
รวมตรวจยึด 5 จุดตรวจค้น ยาแก้ไอปลอม ยี่ห้อ "ดาทิสซิน" ยี่ห้อ "ALLERGIN SYRUP" และผลิตภัณฑ์อาหารปลอม น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นราสเบอร์รี่ จำนวนกว่า 92,100 ขวด สติ๊กเกอร์ยาปลอมและอาหารปลอมจำนวนกว่า 295,000 ดวง รวมถึงวัตถุดิบอุปกรณ์ในการผลิตจำนวนมาก มูลค่าของกลางทั้งสิ้นประมาณ 22 ล้านบาท
จากการสืบสวนพบว่า ผู้กระทำความผิด นำส่วนผสม วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่าง ๆ มาลักลอบผลิต จากนั้นจะนำมาแบ่งบรรจุลงขวดอีกแห่งหนึ่ง โดยมีแรงงานต่างชาติเป็นคนงานและจะย้ายสถานที่ผลิตไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ยากแก่การติดตาม ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวเป็นผู้ที่ได้รับการว่าจ้างผลิตยาแก้ไอปลอมให้กับเครือข่ายผู้กระทำความผิดในการผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร, จ.นครปฐม, จ.นนทบุรี และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าทำการตรวจค้นไปแล้ว
เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2567 และเดือนมกราคม, เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ยังกระทำผิดซ้ำซากโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค หวังแต่ผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ สร้างปัญหาให้แก่สังคมส่วนรวม
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนทั้งด้านการให้บริการสุขภาพและด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพ มาตรฐาน หรือไม่ปลอดภัย ปฏิบัติการครั้งนี้
ขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสอบสวนกลาง ที่บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด รวมไปถึงการจัดการตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการกวาดล้างตั้งแต่ต้นตอของปัญหายาเสพติด ด้วยการจับกุมสถานที่ผลิตเถื่อน หรือร้านขายยากลุ่มเสี่ยงและเภสัชเถื่อนที่มีการขายยาน้ำ แก้แพ้ แก้ไอให้กับวัยรุ่นนำไปผสมสารเสพติดและน้ำกระท่อม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่การใช้ยาเสพติดชนิดที่รุนแรงขึ้นในกลุ่มเยาวชน และก่อให้เกิดปัญหาภัยสังคมตามมาเป็นลำดับ
กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็ง เพื่อจัดการปัญหาทั้งที่เป็นภัยต่อสังคมและภัยต่อสุขภาพ รวมไปถึงการปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการลักลอบนำเข้าหรือผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ความปลอดภัยของประชาชนแล้ว ยังส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศชาติอีกด้วย
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมมือกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จนสามารถจับกุมเครือข่ายลักลอบผลิตยาน้ำแก้ไอปลอมได้สำเร็จในครั้งนี้
โดยขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการนำยาแก้แพ้และยาแก้ไอมาใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปผสมในเครื่องดื่ม "4x100" ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ เนื่องจากพบว่ามีการลักลอบผลิตยาน้ำปลอมจำนวนมากโดยสถานที่ผลิตเหล่านี้ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) และไม่ถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
สำหรับปัญหาการนำยาไปใช้ในทางที่ผิดอย่างต่อเนื่อง อย. ได้กำหนดมาตรการควบคุมครอบคลุมตั้งแต่การนำเข้าสารเคมีที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยา จนถึงขั้นตอนการจำหน่าย โดยผู้ที่ต้องการนำเข้า ผลิต หรือขายยาดังกล่าว จะต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ฝ่าฝืนหรือลักลอบดำเนินการจะต้องรับโทษทั้งจำคุกและปรับตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ อย. ได้ประสานความร่วมมือกับ บก.ปคบ. ในการเฝ้าระวังและปราบปรามการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาปลอมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หรือผลิตจากแหล่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากจะไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคแล้ว ยังอาจทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตรายต่อสุขภาพได้อีกด้วย