“ต้อกระจก” อาการเตือน เทคนิคการดูแล รักษาอย่างไรเพื่อไม่ให้ตาบอดถาวร

18 มิ.ย. 2568 | 08:17 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มิ.ย. 2568 | 08:19 น.

แพทย์ชี้ “ต้อกระจก” โรคฮิตของผู้สูงวัย พร้อมอาการเตือน เทคนิคการดูแล ย้ำรีบรักษา ปล่อยไว้นาน ร้ายแรงขั้นตาบอดถาวรได้

“โรคต้อกระจก” โรคทางตาที่พบได้บ่อยในผู้สูงวัย แต่รู้หรือไม่ว่า หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดถาวรได้เลยทีเดียว

 

ต้อกระจก คืออะไร?

ต้อกระจก คือ ภาวะที่เลนส์ตาขุ่นมัว ซึ่งแต่เดิมเลนส์นี้ควรจะใสเพื่อให้แสงผ่านเข้าสู่จอประสาทตาได้อย่างชัดเจน เมื่อเลนส์ขุ่น แสงจะผ่านได้ไม่ดี การมองเห็นจึงพร่ามัว มืดลง หรือเหมือนมีหมอกจาง ๆ ปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาการเหล่านี้ค่อย ๆ เกิดขึ้นอย่างช้า ๆ จนหลายคนไม่ทันรู้ตัวว่ากำลังสูญเสียการมองเห็นไปทีละน้อย

“ต้อกระจก” อาการเตือน เทคนิคการดูแล รักษาอย่างไรเพื่อไม่ให้ตาบอดถาวร

โรคต้อกระจกไม่ได้ทำให้เสียชีวิต แต่สามารถลดคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก ลองนึกภาพว่าคุณไม่สามารถขับรถ อ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งมองเห็นหน้าคนที่คุณรักได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกนั้นไม่ต่างจากการถูกจำกัดโลกให้อยู่ในกรอบเล็ก ๆ ที่มืดมน และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าหรือความรู้สึกโดดเดี่ยว โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

อาการเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

  • มองเห็นภาพเบลอ หรือมีแสงจ้าเกินปกติ
  • เห็นแสงไฟกระจายตอนกลางคืน
  • เปลี่ยนแว่นบ่อย แต่สายตาก็ยังไม่ชัด
  • มองเห็นสีจืดลง หรือมืดมัวทั้งที่อยู่ในที่มีแสง
  • ตาสู้แสงแดดไม่ได้

หากเริ่มมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที เพราะยิ่งตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาให้กลับมามองเห็นชัดเจนก็ยิ่งสูง

การรักษาที่ได้ผลที่สุด

แม้ในระยะแรกการสวมแว่นจะช่วยได้บ้าง แต่เมื่อต้อกระจกพัฒนาไปถึงจุดหนึ่ง วิธีที่ได้ผลดีที่สุดคือการผ่าตัดเลนส์ตา โดยนำเลนส์ที่ขุ่นออกแล้วใส่เลนส์เทียมแทน ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดปลอดภัยสูง ใช้เวลาไม่นาน และสามารถฟื้นฟูการมองเห็นได้ดี

เทคนิคดีๆ ในการดูแลดวงตา

  • ใส่แว่นกันแดดเมื่ออยู่กลางแจ้ง เพื่อป้องกันรังสี UV
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อดวงตา เช่น ผักใบเขียว แครอท และผลไม้สีสันสด
  • หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์
  • ควบคุมโรคประจำตัว โดยเฉพาะเบาหวาน
  • ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี

 

“ต้อกระจก” อาจไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษา มันสามารถพรากโลกใบสวยจากคุณไปได้อย่างไม่มีวันหวนกลับ    อย่ารอให้สายเกินแก้ หมั่นดูแลและตรวจเช็กสุขภาพดวงตาเป็นประจำ     เมื่อมีอาการควรเข้ามาปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุ เพื่อตรวจประเมินและนำไปสู่การรักษาที่ทันท่วงที เพื่อรักษาดวงตาคู่สวยให้อยู่กับเรานานยิ่งขึ้น