30 พฤษภาคม 2568 ในประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธาน นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณปี 69 ว่า กระทรวงสาธารณสุขซึ่งปีนี้ได้รับการจัดสรร วงเงิน 1.77 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 68 คิดเป็น 3.3 % ที่น่าสนใจหากเพิ่มในส่วนของงบประมาณจาก สปสช.เข้าไปด้วยเท่ากับเพิ่มมา 15.18 % คือ เกือบ 20 เท่า
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข แถลงนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุข ผ่านมา 1 ปี ตนขอพูดถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่ท่านจะยกระดับเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวผ่านมาแล้ว 1 ปี ต้องถามประชาชนว่า ใช้ได้จริงหรือไม่
ปีที่ผ่านมาโครงการนี้ใช้ชื่อว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว แต่ปีนี้ชื่อ โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ไม่มีคำว่า บัตรประชาชนใบเดียวอีกต่อไปเพราะทำสำเร็จแล้ว หรือ เพราะทำไม่ได้ บอกว่า จะเชื่อมต่อ 3 องค์ประกอบ คือ เชื่อมต่อระบบข้อมูล บริการสุขภาพดิจิทัล และ Thailand health Atlas แต่ล้มเหลววันนี้ยังมีปัญหาเรื่องใบส่งตัว ขณะที่ความพยายามในการทำการแพทย์เชิงรุกเข้าถึงประชาชนในชุมชนโดยตั้งเป้า 6 แสนคนจะต้องเข้าถึงแต่ปัจจุบันทำได้แค่ 2.5 แสนคน ปีงบประมาณเหลืออีกแค่ 4 เดือน จึงมองว่า สอบตก
ส่วน งบ สปสช. เป็น 1 ในหน่วยงานที่ได้รับงบเพิ่มขึ้น 15.18% คาดหวังว่า จะทำอะไรให้เกิดความเปลี่ยนแปลง แต่เป้าหมาย หรือ KPI ยังตั้งไว้เท่าเดิมไม่มีการตั้งเป้าไว้สูงขึ้น ขณะที่คลินิคชุมชนอบอุ่นและรพ.เอกชนที่เข้ามาร่วมบริการกับรัฐถูกเบี้ยวหนี้ รพ.หลายแห่งถอนตัวเพราะสปสช.ถังแตก ปี 67 เอาเงินสดต้นงวด ยกมามี 8,500 ล้านบาท ปี 68 เหลือ 1,200 ล้านบาท ส่วนปีนี้เงินสดต้นงวดของ สปชส.เหลือ 200 ล้านบาท ถามว่า สภาพคล่องอยู่ที่ไหนกับองค์กรระดับแสนล้าน
กรมการแพทย์แผนไทยได้งบเพิ่มขึ้น 30% เป้าหมายเพิ่มมูลค่าตลาดสมุนไพร เห็นอย่างเดียวที่จับต้องได้ในโครงการที่เกี่ยวกับสมุนไพร คือ การสร้างตึก สร้างศูนย์อาคารสาธารณสุขเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก ที่ จ.สุโขทัยตั้งงบปี 69 คาดเสร็จสิ้นปี 70 ถามว่าทำไมต้องสร้างที่สุโขทัยเพราะถ้าเป็นตนคงไม่กล้ากลัวถูกครหา