นายแพทย์อภิชัย จิระประดิษฐา อายุรแพทย์ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ มุกดาหาร เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารว่า โรคแอนแทรกซ์เป็นโรคที่ไม่ได้พบในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี เนื่องจากมีการควบคุมโรคที่ดี แต่จากเหตุการณ์ล่าสุดพบคนไข้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์จากการรับประทานเนื้อดิบที่มีเชื้อ ทำให้เกิดอันตรายรุนแรงถึงชีวิต
แอนแทรกซ์ หรือโรคผิวหนังอักเสบจากแบคทีเรีย Bacillus anthracis เป็นเชื้อที่มีความสามารถในการสร้างสปอร์เป็นเส้นใยที่ฟุ้งกระจายได้คล้ายกับเชื้อรา สามารถติดต่อได้จากสัตว์สู่คน โดยมีอาการแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวิธีการรับเชื้อ:
"สิ่งที่ประชาชนต้องระมัดระวังเกี่ยวกับโรคนี้ คือ เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคนี้ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย เมื่อถูกตรวจพบจะได้รับยาฆ่าเชื้อทันที" นายแพทย์อภิชัยเน้นย้ำพร้อมแนะนำว่า:
หน้าฝนมาแล้ว ระวังลูกน้อยป่วยหนัก RSV กลับมาระบาดอีกครั้ง
ไม่เพียงแค่โรคแอนแทรกซ์เท่านั้น การเปิดเทอมของเด็กนักเรียนในช่วงฤดูฝนยังนำมาซึ่งความเสี่ยงของโรคระบาดในเด็ก โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจอย่าง RSV (Respiratory Syncytial Virus) ที่กลับมาระบาดเช่นทุกปี
แพทย์หญิงมัลลิกา โมทะจิตต์ กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบทางเดินหายใจเด็ก และแพทย์หญิงเพ็ญรวี ขาวสำลี กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ให้ข้อมูลสำคัญว่า "ช่วงฤดูฝนและการเปิดเทอมเป็นช่วงที่เด็กๆ มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในช่วงวัยแรกเกิดจนถึงวัยอนุบาล เนื่องจากโครงสร้างของทางเดินหายใจยังพัฒนาไม่เต็มที่ มีความอ่อนตัวและขนาดเล็ก จึงง่ายต่อการอุดกั้นจากน้ำมูก เสมหะ และสิ่งแปลกปลอม"
ผู้ปกครองควรสังเกตอาการผิดปกติในเด็ก ซึ่งอาการที่พบบ่อยในโรคทางเดินหายใจ ได้แก่:
"เมื่อพบอาการเหล่านี้ ผู้ปกครองควรให้การดูแลเบื้องต้น เช่น เช็ดตัว ดูดน้ำมูก ล้างจมูก ป้อนยาตามอาการในกรณีเด็กโต และหากอาการเหล่านั้นรบกวนกิจวัตรหลักของเด็กๆ เช่น การกิน หรือการนอน ควรพาเด็กไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการนำของการเจ็บป่วยทางเดินหายใจรุนแรง หรือโรคเรื้อรังในอนาคตได้" แพทย์หญิงมัลลิกาแนะนำ
โรคระบบทางเดินหายใจในเด็กที่พบบ่อยในหน้าฝน
สำหรับเด็ก
แพทย์หญิงเพ็ญรวีเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันและดูแลเด็กในช่วงฤดูฝนว่า:
"ไม่มีใครรู้จักบุตรหลานเราดีเท่ากับผู้ปกครอง เพราะเด็กยังสื่อสารได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ ดังนั้นการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมและอาการผิดปกติจะทำให้สามารถให้ข้อมูลสำคัญกับแพทย์เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยรักษาที่ถูกต้อง" แพทย์หญิงเพ็ญรวีกล่าว
สำหรับประชาชนทั่วไป