ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี รัฐบาลชวนปชช.ใช้บริการถึงส.ค.นี้

14 พ.ค. 2568 | 02:52 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ค. 2568 | 02:56 น.

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงเข้าใช้บริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 นี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ

ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ล่าสุด นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) 

โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย 

ทั้งนี้ สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 

  1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 
  2. เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี 
  3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, หัวใจ, หลอดเลือดสมอง, ไตวาย, เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด) 
  4. ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี 
  5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 
  6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 
  7. โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กก./ BMI มากกว่า 35 kg/m2)

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ในคนทั่วไปมักจะมีอาการไม่รุนแรง เช่น มีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว และเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ เป็นต้น โดยอาการต่าง ๆ เหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายได้เอง แต่ในกรณีเป็นประชาชนที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงข้างต้นนี้ อาจเกิดอาการแทรกซ้อนที่รุนแรงและเสียชีวิตได้ 

นายอนุกูล ระบุว่า ในปี 2568 กรมควบคุมโรคยังได้คาดการณ์สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลมาจากสภาวะอากาศ ดังนั้น รัฐบาลขอให้ประชาชนทั้ง 7 กลุ่มเสี่ยงนี้ รีบเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ช่องทางการเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี

ประชาชนสามารถเข้ารับบริการสามารถติดต่อขอรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ที่หน่วยบริการในระบบบัตรทองได้ทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. และคลินิกชุมชนอบอุ่นที่เข้าร่วมโครงการ หรือสถานพยาบาลตามสิทธิที่ท่านไปรักษาเป็นประจำ 

โดยดูรายชื่อหน่วยบริการที่เข้าร่วมให้บริการได้ที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง (แอปเป๋าตัง) ในเมนูกระเป๋าสุขภาพ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 

อย่างไรก็ดีเพื่อความสะดวกประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถโทรนัดหมายกับหน่วยบริการล่วงหน้า เพื่อทราบวันเวลาเข้ารับบริการที่แน่นอน