KEY
POINTS
ข้าวเหนียวเป็นข้าวประเภทหนึ่งที่มีความพิเศษตรงที่มีแป้ง อะไมโลเพคติน (amylopectin) สูง ทำให้เมล็ดเหนียวและจับตัวกันเมื่อหุงสุก แตกต่างจากข้าวเจ้าที่เมล็ดร่วน ข้าวเหนียวสามารถพบได้หลายชนิด ทั้งข้าวเหนียวขาว ข้าวเหนียวดำหรือม่วง และข้าวเหนียวหอมมะลิ ข้าวเหนียวดำหรือม่วงมีสาร แอนโธไซยานิน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และลดการอักเสบ
แม้จะเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคอีสาน แต่ข้าวเหนียวก็มีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าสนใจ ข้าวเหนียวให้พลังงานสูงจากคาร์โบไฮเดรต เหมาะกับผู้ที่ต้องการแรงงานสูง แต่ก็ต้องระมัดระวังสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากดัชนีน้ำตาลในเลือดของข้าวเหนียวสูง ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งเร็ว ข้าวเหนียวดำหรือม่วงจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าข้าวเหนียวขาว เพราะสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอการดูดซึมและลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังบางชนิด
นอกจากพลังงานและสารต้านอนุมูลอิสระ ข้าวเหนียวยังอุดมด้วย วิตามิน B1, B2, B3 และแร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยเสริมระบบประสาทและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ การหุงและรับประทานข้าวเหนียวกับอาหารที่หลากหลาย เช่น ลาบ ไก่ย่าง หรือส้มตำ ยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน
สำหรับผู้รักสุขภาพ ปัจจุบันข้าวเหนียวกำลังเป็นที่สนใจในรูปแบบ ข้าวเหนียวออร์แกนิกและข้าวเหนียวดำเพื่อสุขภาพ ที่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ ข้าวเหนียวชนิดนี้เหมาะกับคนที่ต้องการอาหารเพื่อสุขภาพและลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคหัวใจ
ย่างไรก็ดี การรับประทานข้าวเหนียวควรคำนึงถึง ปริมาณที่เหมาะสม เพราะแม้จะดีต่อสุขภาพ แต่คาร์โบไฮเดรตสูงเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้น หากรับประทานร่วมกับผักและโปรตีน จะช่วยปรับสมดุลและลดผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้
ด้วยคุณค่าทางโภชนาการและสารต้านอนุมูลอิสระ ข้าวเหนียวจึงไม่ได้เป็นเพียงอาหารพื้นบ้านของคนอีสาน แต่ยังเป็น ทางเลือกเพื่อสุขภาพ ที่ตอบโจทย์ผู้ที่รักการกินอาหารแบบดั้งเดิมและต้องการดูแลร่างกายไปพร้อมกัน