เปิดโมเดลผลักดัน เชียงใหม่เป็น 'เมืองเวลเนสระดับโลก'

27 ส.ค. 2568 | 12:29 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2568 | 12:41 น.

STeP อุทยานวิทยาศาสตร์ มช. ผลักดันเชียงใหม่สู่ "World Class Wellness City" บ่มเพาะผู้ประกอบการ 500 ราย สร้างผลิตภัณฑ์สุขภาพ 50 ชิ้น พลิกผลผลิตเกษตรสู่ธุรกิจมูลค่าสูง

อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการ "เชียงใหม่เมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก" (Chiang Mai World Class Wellness City) เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการและชุมชนสู่ธุรกิจสุขภาพระดับสากล

รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานฯ และผู้อำนวยการโครงการ เปิดเผยว่า โครงการนี้มุ่งเปลี่ยนเชียงใหม่จากเมืองท่องเที่ยวสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมสุขภาพระดับโลก โดยใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาพัฒนาผู้ประกอบการ เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่

เปิดโมเดลผลักดัน เชียงใหม่เป็น 'เมืองเวลเนสระดับโลก'

เป้าหมายใหญ่ บ่มเพาะผู้ประกอบการ 500 ราย

โครงการนี้ออกแบบกิจกรรมหลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย

กิจกรรมหลักที่ 1 บ่มเพาะและสร้างผู้ประกอบการใหม่ในอุตสaหกรรมและธุรกิจสุขภาพ (Health & Wellness Startup Creation) มีเป้าหมายบ่มเพาะผู้ประกอบการใหม่ไม่น้อยกว่า 50 ราย

กิจกรรมหลักที่ 2 พัฒนาทักษะการประกอบอาชีพสำหรับบุคลากรในอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพ (Health & Wellness Worker Up Skill) ผ่านการอบรมทักษะอาชีพใหม่กว่า 30 ชั่วโมง พร้อมกิจกรรมศึกษาดูงานและสร้างเครือข่ายความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายพัฒนาบุคลากรไม่น้อยกว่า 500 ราย

กิจกรรมหลักที่ 3 ยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงในอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพ (High Value Health & Wellness Product) โดยต่อยอดสู่การสร้างผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่มีมูลค่าสูงไม่น้อยกว่า 50 ผลิตภัณฑ์

รศ.ดร.ปิติวัฒน์ วัฒนชัย ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP)

ผลตอบรับเกินคาด มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 500 ราย

รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ เขมาชีวะกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการอุทยานฯ และหัวหน้าโครงการ กล่าวว่า โครงการได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากผู้ประกอบการหลากหลายสาขา ทั้งด้านเกษตรแปรรูป สมุนไพร เครื่องสำอาง อาหารเพื่อสุขภาพ ไปจนถึงบริการด้านเวลเนส

"มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 500 ราย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความต้องการจริงในการต่อยอดสู่ตลาดสุขภาพระดับประเทศ" รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ กล่าว

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน STeP ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งการอบรมเสริมทักษะธุรกิจสุขภาพ การให้คำปรึกษาเชิงลึกจากนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ การสนับสนุนการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Prototype) กว่า 50 ชิ้น ตลอดจนการสร้างเครือข่ายธุรกิจและการศึกษาดูงานจากสถานประกอบการสุขภาพชั้นนำ

เปิดโมเดลผลักดัน เชียงใหม่เป็น 'เมืองเวลเนสระดับโลก'

เสริมความเข้มแข็งระบบนิเวศธุรกิจสุขภาพ

บทบาทของ STeP ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนโครงการครั้งนี้ ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาต่อยอดให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นได้ใช้จริงในธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ตรงกับความต้องการตลาด การเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างมีมาตรฐาน ไปจนถึงการวางรากฐานด้านเครือข่ายที่เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับตลาดและหน่วยงานสนับสนุนได้อย่างเข้มแข็ง

เปิดโมเดลผลักดัน เชียงใหม่เป็น 'เมืองเวลเนสระดับโลก'

คาดการณ์ผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น

ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าว คือการที่ผู้ประกอบการและชุมชนของเชียงใหม่จะมีความเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดที่ท้าทาย ขณะที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากผลผลิตทางการเกษตรจะได้รับการพัฒนาให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สร้างทั้งรายได้และความภาคภูมิใจให้กับท้องถิ่น

อีกทั้งยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ในฐานะเมืองเวลเนสที่ครบวงจร เติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางธุรกิจสุขภาพระดับโลกในอนาคต

เปิดโมเดลผลักดัน เชียงใหม่เป็น 'เมืองเวลเนสระดับโลก'

"โครงการเชียงใหม่เมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก จึงไม่เพียงเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับศักยภาพของผู้คนและชุมชนอย่างแท้จริง" โครงการฯ ระบุ

โครงการนี้จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมสร้างอนาคตใหม่ให้กับ "เชียงใหม่ เมืองแห่งอุตสาหกรรมและธุรกิจสุขภาพระดับโลก"