'กรมที่ดิน'ชี้แจงรถไฟทางคู่สายอีสาน-เหนือ ยืนยันส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) แล้ว  

25 ธ.ค. 2568 | 06:48 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2568 | 07:06 น.

'กรมที่ดิน'ชี้แจง กรณี โครงการรถไฟทางคู่สายอีสาน และสายเหนือ ยืนยันส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) เรียบร้อยแล้ว ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวบางส่วนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

KEY

POINTS

  • กรมที่ดินได้ส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) โครงการรถไฟทางคู่สายอีสาน (บ้านไผ่-นครพนม) ให้การรถไฟฯ แล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียง 90 แปลงจากทั้งหมด 7,280 แปลง
  • สำหรับโครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ (เด่นชัย-เชียงของ) ได้ส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) ให้การรถไฟฯ ครบถ้วนแล้วทั้ง 7,413 แปลง
  • กรมที่ดินชี้แจงว่างานจดทะเบียนที่ยังค้างอยู่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง เนื่องจากตามกฎหมาย กรรมสิทธิ์จะโอนเมื่อมีการจ่ายเงินค่าทดแทนแล้ว

ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายอีสานและสายเหนือประสบปัญหาความล่าช้า อันเนื่องมาจากกระบวนการเวนคืนที่ดินนั้น กรมที่ดินได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าวแล้ว ขอชี้แจงว่า ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวบางส่วนอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

กรมที่ดินขอเรียนว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ซึ่งมีการกล่าวอ้างถึงการดำเนินงานของทีมรังวัดจากสำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัดนั้น ปัจจุบันงานรังวัดในหลายพื้นที่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่–มหาสารคาม–ร้อยเอ็ด–มุกดาหาร–นครพนม ซึ่งมีจำนวนแปลงที่ดินที่มี เอกสารสิทธิทั้งสิ้น 7,280 แปลง

สำนักงานที่ดินได้ดำเนินการส่งรูปแผนที่ (ร.ว.๙) ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยแล้วจำนวน 7,190 แปลง คงเหลือเพียง 90 แปลง ที่ยังไม่สามารถส่งมอบได้

 

กรมที่ดินชี้แจง แบ่งเป็น ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด 8 แปลง และจังหวัดมุกดาหาร 25 แปลง เนื่องจากเป็นการยื่นคำขอภายหลังพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินโครงการรถไฟทางคู่สายอีสานที่สิ้นสุดอายุเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 และจังหวัดนครพนม 57 แปลง

เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจเรื่องรังวัด นอกจากนี้ ยังมีงานค้างจดทะเบียนอยู่ที่สำนักงานที่ดิน จำนวน 1,008 แปลง ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายเด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ มีจำนวนแปลงที่ดินที่มีเอกสารสิทธิทั้งสิ้น 7,413 แปลง สำนักงานที่ดินได้ส่งมอบ รูปแผนที่ (ร.ว.๙)

ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยครบถ้วนแล้วทั้ง 7,413 แปลง และมีงานค้างจดทะเบียนอยู่ที่สำนักงานที่ดินจำนวน 485 แปลงสำหรับงานค้างจดทะเบียนของทั้งสองโครงการนั้น อยู่ระหว่างรอการรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการจดทะเบียน โดยสำนักงานที่ดินได้แจ้งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว

โครงการรถไฟทางคู่สายเหนือ-อีสาน กรมที่ดินชี้แจง

ทั้งนี้ ตามมาตรา 25 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 ได้บัญญัติไว้ว่า

“หากเจ้าของตกลงซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของโดยเร็วตามแบบที่เจ้าหน้าที่กำหนด และให้พนักงานเจ้าหน้าที่จ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่เจ้าของภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันทำสัญญาซื้อขาย ทั้งนี้ ถือว่าได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวนับแต่วันชำระเงิน”

ดังนั้น การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมจึงเป็นเพียงกระบวนการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทางทะเบียนเท่านั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใด และไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำหรือส่งมอบรูปแผนที่ (ร.ว.๙) ตามที่มีการกล่าวอ้างในข่าว กรมที่ดินขอยืนยันว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาระบบรางของประเทศให้เป็นไปตามแผนงานและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง