KEY
POINTS
ความตึงเครียดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชานอกจากกระทบต่อชีวิตทรัพย์สินประชาชนในพื้นที่แล้วยังมีผลกระทบโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์แต่ทั้งนี้จะมีความรุนแรงแตกต่างกัน ที่จะทบสูง และคาดการณ์ว่าการซื้อที่อยู่อาศัยในจังหวัดชายแดน ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว ตราด อาจชะลอออกไป
ทั้งประเภทบ้านจัดสรรแนวราบที่ดินเปล่าโครงการใหม่ใกล้ชายแดน ซึ่งผลที่เห็นได้ชัด ดีมานด์ชะลอ คนเลื่อนตัดสินใจซื้อราคาขายขึ้นยาก อาจต้องลดราคานักลงทุนชะลอการพัฒนาโครงการใหม่
ขณะพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภูเก็ต เชียงใหม่ เมืองอีอีซี อาจได้อานิสงส์จากการย้ายถิ่นจากคนรุ่นใหม่
ในแง่ผลกระทบทางอ้อมในพื้นที่อื่นๆ ความเชื่อมั่นนักลงทุน นักลงทุนต่างชาติ อ่อนไหวต่อข่าวความขัดแย้ง ถ้าข่าวยืดเยื้อ อาจทำให้ต่างชาติชะลอซื้อคอนโด กองทุนอสังหาฯ ชะลอการลงทุนในพื้นที่เสี่ยง แต่ถ้าเหตุการณ์จำกัดวงและคลี่คลายเร็ว จะกระทบระยะสั้น
ผลกระทบที่ตามมางบรัฐ อาจถูกโยกไปด้านความมั่นคง โครงสร้างพื้นฐานบางพื้นที่ชะลอ แรงงานชายแดน ขาดแคลน ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มในบางจังหวัดธนาคารอาจ เข้มการปล่อยสินเชื่อ ในพื้นที่เสี่ยง
สำหรับ โอกาส นักลงทุนราคาที่ดิน-บ้านในบางพื้นที่อาจ ถูกกว่ามูลค่าจริง ระยะยาวซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่เก็งกำไรแต่ต้องเลือกทำเล ไม่ติดแนวปะทะโดยตรง
สอดคล้องมุมสะท้อนนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยสะท้อนว่า ผลกระทบจากความไม่สงบบิรเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจอสังหาฯซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครต้องการอยู่อาศัยในจังหวัดที่มีการปะทะเพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ขณะเดียวกันสถาบันการเงินพิจารณาปล่อยสินเชื่อยาก