KEY
POINTS
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทยให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง
ในปี พ.ศ. 2503 ซึ่งเป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเยือน 15 ประเทศในแถบทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา
พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริว่า ควรจะมีการออกแบบเครื่องแต่งกายสตรีไทยให้เป็นแบบอย่างที่เหมาะสมและเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ จึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาการแต่งกายของสตรีไทยในอดีตและนำมาปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย
โดยมีดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ให้คำแนะนำ จนได้เป็น ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ที่มีความงดงามและเหมาะสมกับโอกาสต่างๆ ดังนี้
ชุดไทยเรือนต้น
ลักษณะ : ชุดลำลองที่เรียบง่าย ประกอบด้วยเสื้อคอกลมตื้น แขนสามส่วน ผ่าอกติดกระดุม 5 เม็ด และผ้าซิ่นป้ายหน้ายาวจรดข้อเท้า
โอกาส : เหมาะสำหรับสวมใส่ในงานที่ไม่เป็นพิธีการ หรือพิธีทำบุญต่างๆ
ชุดไทยจิตรลดา
ลักษณะ : ชุดสำหรับพิธีการที่ค่อนข้างเป็นทางการ ประกอบด้วยเสื้อคอตั้ง แขนยาว ผ่าอกติดกระดุม 5 เม็ด และผ้าซิ่นป้ายหน้า
โอกาส : ใช้สำหรับรับรองแขกบ้านแขกเมือง หรืองานพิธีต่างๆ
ชุดไทยอมรินทร์
ลักษณะ: ชุดสำหรับงานพิธีที่ต้องการความสง่างาม ตัวเสื้อเป็นคอกลม แขนยาว ผ่าหน้าติดกระดุม และผ้าซิ่นป้ายหน้า มีความคล้ายคลึงกับชุดไทยจิตรลดาแต่จะใช้ผ้าไหมยกดอกที่มีลวดลายงดงาม
โอกาส: เหมาะสำหรับใส่ในงานพระราชพิธีหรืองานสโมสรสันนิบาต
ชุดไทยบรมพิมาน
ลักษณะ: ชุดพิธีเต็มยศ ประกอบด้วยเสื้อคอตั้งแขนยาว และผ้าซิ่นแบบหน้านาง มีจีบหน้านาง
โอกาส: ใช้สวมใส่ในงานพิธีช่วงค่ำ หรืองานสำคัญต่างๆ
ชุดไทยจักรพรรดิ
ลักษณะ: ชุดที่มีความหรูหราอลังการ ประกอบด้วยสไบที่ปักด้วยลูกปัดและเลื่อมอย่างสวยงาม และผ้าซิ่นแบบหน้านาง มีชายพก
โอกาส: ใช้ในงานพิธีใหญ่ๆ ที่เป็นพิธีการสูง
ชุดไทยจักรี
ลักษณะ: ชุดที่งดงามและสง่าที่สุด ประกอบด้วยผ้าสไบเฉียงที่ปักด้วยลูกปัดและเลื่อมอย่างสวยงาม และผ้าซิ่นแบบหน้านาง
โอกาส: ใช้สำหรับงานพิธีสำคัญ เช่น งานเลี้ยงรับรอง งานแต่งงาน
ชุดไทยศิวาลัย
ลักษณะ: ชุดสำหรับงานพิธีการที่สง่างาม ตัวเสื้อคอตั้งแขนยาว และผ้าซิ่นหน้านาง มีชายพก
โอกาส: ใช้สำหรับงานพระราชพิธี
ชุดไทยดุสิต
ลักษณะ: ชุดที่เน้นความงดงามและทันสมัย ตัวเสื้อคอกว้าง แขนกุด และผ้าซิ่นแบบหน้านาง มักประดับด้วยลูกปัดหรือเลื่อม
โอกาส: ใช้ในงานราตรีสโมสรหรืองานเลี้ยงตอนค่ำ
แหล่งที่มา : กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์