พระราชกรณียกิจสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงห่วงใยต่อการอนุรักษ์ดนตรีและนาฏศิลป์ไทย

25 ต.ค. 2568 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2568 | 02:53 น.

พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยต่อการทำนุบำรุงดนตรีไทย นาฏศิลป์ และการแสดงพื้นบ้าน พร้อมสนับสนุนการจัดนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมไทยประเทศ

KEY

POINTS

  • สมเด็จพระพันปีหลวงทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยในการอนุรักษ์และสืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยเฉพาะด้านนาฏศิลป์ ดนตรีไทย และการแสดงพื้นบ้าน
  • ทรงมีพระราชปณิธานมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ "โขน" โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการฟื้นฟูเครื่องแต่งกาย และมีพระราชดำริให้พัฒนาการแสดงให้มีความร่วมสมัย
  • พระราชกรณียกิจในการฟื้นฟูโขน นำไปสู่การแสดง "โขนพระราชทาน" ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติโดยยูเนสโก (UNESCO)

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยต่อต่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบทอด พัฒนาและเผยแพร่มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติด้านนาฏศิลป์ ดนตรีไทยและการแสดงพื้นบ้าน พร้อมสนับสนุนการจัดนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมทั้งในและต่างประเทศ 

โดยเฉพาะศิลปะการแสดง “โขน” ซึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่บรรพชนมอบไว้ ทรงมีพระราชปณิธานมุ่งมั่นจะธำรงรักษาศิลปะการแสดงโขนไว้เป็นมรดกของชาติ ทรงให้การอุปถัมภ์การแสดงโขนและพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อฟื้นฟูปรับปรุงเครื่องแต่งกายโขนของกรมศิลปากรให้วิจิตรงดงาม 

โขนพระราชทาน

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ในการอนุรักษ์และการพัฒนาการแสดงโขน ตั้งแต่พ.ศ. 2546 โดยทรงให้ศึกษาการแต่งหน้าโขนให้มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ จัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนให้ประณีตงดงามตามแบบโบราณและพัฒนาการแสดงโขนให้ทันสมัย เหมาะสมกับสังคมยุคใหม่

โขนพระราชทานเริ่มขึ้นในปีพ.ศ.2550 เป็นการแสดงเรื่องรามเกียรติ์ตอนพรหมาศ เป็นปฐมทัศน์ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา ระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม 2550 จัดการแสดงขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

มีผู้คนจำนวนมากสนใจชมโขนกันอย่างเนือง จนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในชื่อ “โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ” 

ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ศึกษาค้นคว้าการแสดงโขนตามแบบโบราณราชประเพณี พร้อมฟื้นฟูองค์ความรู้ในการสร้างเครื่องแต่งกายโขนให้งดงามตามธรรมเนียมเดิม

โปรดเกล้าฯ ให้ผู้เชี่ยวชาญและศิลปินในสาขาที่เกี่ยวข้อง ศึกษาข้อมูลและหลักฐานเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายโขนในละครโบราณอย่างละเอียด เพื่อจัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนละครขึ้นใหม่ ตลอดจนพัฒนาศิลปะการแสดงหน้าโขนละครให้มีความร่วมสมัย 

โขนพระราชทาน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกพรหมาศ เมื่อพ.ศ.2552 เป็นปฐมบทแห่งโขนพระราชทานที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความชื่นชมในเรื่องความงดงามของเครื่องแต่งกาย ความวิจิตรตระการตาของฉากและเทคนิคต่างๆ กระบวนการรังสรรค์เครื่องโขนที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและเกือบสูญสลายไปตามกาลเวลาให้กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง

ทำให้โขนเป็นที่รู้จักและชื่นชมไปทั่วโลก และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศขึ้นทะเบียนโขนไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ถือเป็นมรดกล้ำค่าของชาติที่ชาวไทยทุกคนควรร่วมกันอนุรักษ์ไว้ด้วยความหวงแหนยิ่งชีพ

นำไปสู่การแสดงโขนพระราชทานอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และปีล่าสุด พ.ศ. 2568 ยังคงจะจัดแสดงต่อเนื่อง ตอนสัตยาพาลี มีกำหนดจัดแสดงในระหว่างวันที่ 6 พฤศจิกายน – วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

 

ข้อมูลรวบรวมจาก ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม