ยามาฮ่าโตสวนตลาด เอ็ม-สแลซ ขายพุ่ง 400%

06 พ.ค. 2559 | 12:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ยามาฮ่าสุดปลื้ม ไตรมาสแรกยอดขายพุ่งแรง 22 % สวนทางตลาดรวมวูบ 5 % ชี้เหตุเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นใหม่เอาใจคนชั้นกลางที่มีไลฟ์สไตล์แปลกใหม่ สุดทึ่ง เอ็ม-สแลซ สตรีทไบค์ราคา 8.95 หมื่น ยอดโตพรวด 400 % เผยรถสปอร์ต 150 ซีซี.กำลังมาแรง

นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2559 โดยภาพรวมยังไม่ดีขึ้น โดยมียอดขาย 4.5 แสนคัน ลดลง 5 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดขายรวม 4.79 แสนคัน เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมยังชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง พืชผลทางการเกษตรราคาต่ำ และยังมีภัยแล้งยาวนาน ผู้บริโภคจึงชะลอกำลังการซื้อ

โดยเมื่อแบ่งตามประเภทของรถจักรยานยนต์พบว่า กลุ่มแรก ตลาดรถโมแพ็ด หรือเอ็มที ที่มีราคาย่อมเยาที่สุด มียอดขายลดลงไม่มากนัก ลดลงเพียง 2.4 % ซึ่งรถในกลุ่มนี้มีมากที่สุด สัดส่วนประมาณ 40 % กลุ่มที่สอง ตลาดรถออโตเมติก หรือเอที ที่มีราคาปานกลาง มียอดขายลดลง 1.3 % และมีสัดส่วน 35 % ในตลาดรวม กลุ่มที่สาม รถจักรยานยนต์สปอร์ต มีความน่าสนใจมากที่สุด มียอดขายเติบโตสูงถึง 21 % รวมทั้งสัดส่วนก็เพิ่มขึ้นด้วย 13 % เป็น 17 %

"สาเหตุที่ตลาดรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ตได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง ยังมีกำลังการซื้อสูง ประกอบกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้ากลุ่มนี้เน้นไลฟ์สไตล์แปลกใหม่มากขึ้น อย่าง ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ ราคาค่อนข้างสูง แต่กลับได้รับความนิยมสูงมาก และคาดว่า กระแสความนิยมของรถกลุ่มนี้จะขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงสิ้นปี สัดส่วนของรถจักรยานยนต์แบบสปอร์ต อาจมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 19 % ก็เป็นได้"

นายประพันธ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับยามาฮ่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 มียอดขายรวม 6.3 หมื่นคัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 22 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นับว่าเติบโตสวนทางตลาดรวมที่ซบเซา นอกจากส่วนแบ่งตลาดก็เพิ่มขึ้น3.1 % จากเดิมมีส่วนแบ่ง 11% เพิ่มเป็น 14 % สาเหตุหลักมาจากยามาฮ่า มีการเปิดตัวรถกจักรยานยนต์แบบสปอร์ตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 150 ซีซี.ไม่ว่าจะเป็น ยามาฮ่าอาร์ 15 ยามาฮ่าอาร์ 3 , เอ็มที 03, เอ็ม-สแลซ ซึ่งล้วนแต่มีบทบาททำให้ยอดขายยามาฮ่าเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วน 27.7 % ของยอดขายยามาฮ่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอ็ม-สแลซ ยอดขายเติบโตถึง 400 % ส่วนในกลุ่มออโตเมติก ก็มียอดขายเติบโต 8 % ส่วนรถในกลุ่มโมแพ็ด กลุ่มราคาย่อมเยา ยอดขายลดลง เนื่องจากยามาฮ่ายังไม่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่สู่ตลาด ขณะที่ค่ายรถคู่แข่งมีผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง สามารถครองตลาดได้สูงมาก

ผลิตภัณฑ์ของยามาฮ่ ในกลุ่มรถสปอร์ตเครื่องยนต์ 150 ซีซี. ประกอบด้วย ยามาฮ่า เอ็ม-สแลซ รถสตรีทไบค์ ไฟหน้าแบบ FULL LED โดดเด่นด้วยโช้คหัวกลับขนาดใหญ่ ราคา 8.95 หมื่นบาท ยามาฮ่า วายแซดเอฟ-อาร์ 15 รถซูเปอร์สปอร์ตพันธุ์แท้ เทคโนโลยีและสไตล์ลิ่งจากรถแข่งระดับแชมป์โลก ราคา 8.5 หมื่นบาท ยามาฮ่า เอ็กไซเตอร์ 150 รถโมแพ็ดสปอร์ต เกียร์ 5 สปีด คลัตช์มือ ออกตัวเร็ว เร่งแซงเหนือชั้นราคา 6.3 หมื่นบาท ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ 155 ซีซี. ออโตเมติกพรีเมี่ยม เครื่องยนต์บลูคอร์ทั้งแรงทั้งประหยัด รูปลักษณ์ดีไซน์หรูหรา ราคา 7.82 หมื่นบาท

รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์สูงกว่า 400 ซีซี. ในตลาดรวมช่วงไตรมาสแรกมียอดขายรวมทั้งสิ้น 7.1 พันคัน เติบโตขึ้นถึง 25 % โดยยามาฮ่า มียอดขายรถในกลุ่มนี้ประมาณ 500 คัน เพิ่มขึ้น 76 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 260 คัน เนื่องจากยามาฮ่า มีไลน์อัพในกลุ่มบิ๊กไบค์มากขึ้น และราคาก็ใกล้เคียงกับรถที่ประกอบภายในประเทศ ขณะเดียวกัน ยังมีจุดแข็งตรงที่นำเข้าทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น ลูกค้าบางกลุ่มจึงมั่นใจคุณภาพมากกว่า

"สาเหตุหนึ่งที่ยามาฮ่า ยังไม่มีการประกอบบิ๊กไบค์ภายในประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นว่า ข้อตกลงทางการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น หรือเจ-เทปป้า ได้ลดภาษีนำเข้ารถบิ๊กไบค์จากเดิม 60-70 % ลงมามากแล้ว และจะลดเป็น 0 % ในปี2560 ซึ่งทำให้ปัจจุบันราคารถนำเข้าและรถที่ประกอบภายในประเทศแทบจะไม่แตกต่างกัน แต่ในอนาคตภายใน 3 ปี อาจมีการพิจารณาย้ายสายการผลิตจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อใช้ไทยเป็นฐานในการส่งออกก็เป็นได้ ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดต่ำลงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,154 วันที่ 5 - 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559