จุรินทร์ ชี้ "ระนอง เกาะพยาม" เหมาะร่วม อันดามันแซนด์บ็อกซ์

18 ก.ย. 2564 | 07:56 น.

"จุรินทร์" ระบุ การเปิดกรุงเทพฯ วันที่ 15 ต.ค.นี้ ต้องดูความพร้อมทุกฝ่ายต้องพิจารณาร่วมกัน พร้อมชี้ "ระนอง" โดยเฉพาะ "เกาะพยาม" เหมาะเข้าร่วม อันดามันแซนบ็อกซ์ ย้ำ การขยายพื้นที่ จากภูเก็ตแซนบ็อกซ์ สู่ พังงา และกระบี่ ต้องเร่งขยายผล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นโยบายการเปิดประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ว่า ขณะนี้ถือว่าได้มีการนับหนึ่งไปแล้ว เพียงแต่เป็นการทยอยเปิดในพื้นที่ที่มีความพร้อมและมีความเหมาะสม การเปิดประเทศได้ดำเนินการอยู่แล้ว และได้นับหนึ่งมาแล้วตั้งแต่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ต่อไปจะมีพื้นที่ไหนอีก เช่น กรุงเทพมหานคร อันนี้ก็จะต้องมีการพิจารณาร่วมกันระหว่างรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบในพื้นที่กรุงเทพ เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ เวลา ศบค.จะเคาะว่าจะเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวตรงไหน ก็ฟังความเห็นผู้ว่าราชการด้วยเช่นเดียวกัน 

เพราะฉะนั้นกรุงเทพฯ ถ้าจะถามว่าจะเปิดเมื่อไหร่ ก็ต้องอยู่ที่ความเห็นร่วมที่จะได้มีการพูดคุยกันต่อไป หลักของการเปิดประเทศยังมีอยู่ เพราะนายกรัฐมนตรีประกาศเป็นนโยบายไปแล้ว แต่จะเปิดตรงไหนอย่างไรก็ต้องดูความพร้อม ความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่เป็นกรณี เป็นพื้นที่ไป โดยดูเศรษฐกิจ กับโควิดให้เกิดความสมดุลกัน ให้สามารถดูแลทั้งสองเรื่องได้ในเวลาเดียวกัน” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดที่ควรจะได้เดินหน้าต่อไปคือ การนำจังหวัดระนองเข้ามารวมกับ อันดามันแซนด์บ็อกซ์ โดยเฉพาะเกาะพยาม ซึ่งหลังจากได้รับเรื่องจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดระนองที่เห็นว่า เกาะพยามมีความเหมาะสม และตนเองได้ดูเบื้องต้นแล้วก็เห็นว่ามีความเหมาะสม อีกทั้งใช้จำนวนวัคซีนไม่มาก เพียงหลักพันโดสเท่านั้นก็สามารถเปิดเกาะพยามได้ จึงได้แจ้งเรื่องนี้ต่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทราบแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้สั่งการให้นำเรื่องนี้ไปพิจารณาในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาพื้นที่อื่นเพิ่มเติมด้วย เช่น เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน เป็นต้น

ตัวอย่างการเปิดประเทศที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุดคือ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัส ซึ่งได้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาแล้ว โดยโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามากว่า 31,000 คน แต่ประเด็นใหญ่คือ เมื่อคิดจะขยายพื้นที่จากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ไปเป็นอันดามันแซนด์บอกซ์ เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวที่มาพักภูเก็ตครบ 7 วัน แล้วเดินทางต่อไปยังพังงากับกระบี่ ยังเป็นเรื่องที่จะต้องเร่งขยายผลให้บรรลุเป้าหมายต่อไป 

แม้จังหวัดพังงาจะพร้อมแล้วในบางพื้นที่ที่กำหนดไว้ เช่น เขาหลัก เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ หรือจังหวัดกระบี่ ที่เกาะไหง ไร่เลย์ เกาะพีพี แต่ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว 31,000 กว่าคน ที่เดินทางไปยังพังงากับกระบี่ยังมีจำนวนน้อย เป็นตัวเลขเพียงหลักร้อย ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่จะเป็นการบ้านสำหรับทุกฝ่ายที่จะต้องช่วยกันกระจายนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตต่อไปยังพังงากับกระบี่ต่อไป