หุ้นไทยวันนี้ ยังฟื้นตัวได้ดี ลุ้นทดสอบแนวต้านย่อยที่ 1,160 จุด
หุ้นไทยวันนี้ (15 ก.ค.68) แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,130 - 1,160 จุด ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น GDP ไตรมาส 2/68 จีน, เงินเฟ้อสหรัฐฯ การประชุม ครม. ที่คาดจะเสนอผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ลุ้นลดดอกเบี้ยมากขึ้น
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) วิเคราะห์หุ้นไทยวันนี้ (15 ก.ค.68) ว่า วันนี้มีหลายตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม โดยทางฝั่งจีน จับตา GDP ไตรมาส 2/68 คาด +5.1% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ชะลอจาก ไตรมาส 1/68 ที่ +5.4% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ส่วนฝั่งสหรัฐฯ ติดตามตัวเลข เงินเฟ้อ เดือนมิถุนายน โดยคาด US CPI ที่ +2.6% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เพิ่มจากเดือน พฤษภาคมที่ +2.4% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ US Core CPI คาดที่ +2.9% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ขึ้นจากเดือน ก่อนหน้าที่ +2.8% เทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่ามีผลสำคัญต่อการตัดสินใจดอกเบี้ย นโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในช่วงถัดไป โดยทางฝ่ายยังคาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ FED ยังมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ลงอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ด้านปัจจัยในประเทศ วันนี้แนะจับตาการประชุม ครม. คาดจะมีการ เสนอชื่อ "นายวิทัย รัตนากร" ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ ไทยคนใหม่ ซึ่งน่าจะทำให้การประสานนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง กับรัฐบาลทำได้ดีขึ้น
ดังนั้น อาจเพิ่มโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ของไทยในช่วงถัดไป ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนมากยิ่งขึ้น ลงทุนมากยิ่งขึ้น ถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากการปรับ ลดดอกเบี้ย เช่น กลุ่มไฟแนนนซ์, โรงไฟฟ้า, อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
สำหรับ SET ยังฟื้นตัวได้ดี โดยมีแนวต้านย่อยที่เตรียมทดสอบถัดไปอยู่ที่ 1,160 จุด โดยแนะติดตามการรายงานงบไตรมาส 2/68 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่เริ่ม ทยอยประกาศ โดยจังหวะตลาดย่อยังเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นที่คาด แนวโน้มกำไรดี
ปัจจัยที่ต้องจับตา
15 ก.ค.
- ประชุม ครม.
- เงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยูโรโซน & จีน
- GDP ไตรมาส 2/68 จากจีน
- ยอดค้าปลีกจีน
16 ก.ค.
- เงินเฟ้อ PPI ของสหรัฐฯ
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
- สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
หุ้นเด่นแนะนำ
TIDLOR ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.00 บาท
- คาดสินเชื่อและเบี้ยประกันปี 68 นี้ จะเติบโต ช่วยหนุนผลประกอบการยังขยายตัว ต่อเนื่อง
- คาดคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น สะท้อนจาก Credit cost และ NPL formation จะ ลดลงต่อเนื่องในไตรมาส 2/68
- ผสานจิตวิทยาเชิงบวกจากการที่คุณวิทัย มีโอกาสได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ว่า ธปท. คนใหม่ ซึ่งเพิ่มความน่าจะเป็นในการปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้น เป็นบวกต่อกลุ่มไฟแนนซ์