SO รายได้ปีนี้โต 20% เร่งบริการ Outsourcing ครบวงจร เจาะ 5 อุตสาหกรรมดาวรุ่ง

29 มิ.ย. 2568 | 23:30 น.

บมจ.สยามราชธานี เผยแผนครึ่งหลังปี 68 รุกตลาดบริการ Outsourcing และเทคโนโลยีครบวงจร เจาะ 5 อุตสาหกรรมศักยภาพสูง หนุนองค์กรไทยลดต้นทุน-เพิ่มความยืดหยุ่น แข่งขันได้ พร้อมลุ้นบรรทัดสุดท้ายทำนิวไฮ

นางสาวกัณธิมา แจ้งวันสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ผู้ประกอบการธุรกิจหลัก 2 รูปแบบเพื่อ Transformation องค์กรของลูกค้า คือ ธุรกิจบริการเอาท์ซอร์ส (Outsource Service) และธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยี (Technology Service) เปิดเผยว่า ในปี 68 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 2,584.64 ล้านบาท

โดยในช่วงไตรมาส 1/68 บริษัทมีรายได้รรวมแล้วที่ระดับ 691.56 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/68 แนวโน้มธุรกิจและผลการดำเนินงานจะรักษาระดับที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การขยายตัวของบรรทัดสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะสามารถทุบสถิติสูงสุดใหม่ได้ (New high) จากปี 66 ที่เคยทำได้ 183.50 ล้านบาท ส่วนปี67 ทำได้ 153.40 ล้านบาท และไตรมาส 1/68 ที่ 53.62 ล้านบาท

กางแผนครึ่งปีหลัง

แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 68 นั้น บริษัทเตรียมเร่งขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ การเงิน ประกัน พลังงาน ธุรกิจบริการ และภาครัฐ เป็นต้น ซึ่งล้วนต้องการโซลูชันที่รวดเร็ว แม่นยำ และขยายผลได้ เพื่อให้การบริหารต้นทุนและทรัพยากรทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยไม่ได้จำกัดแค่การส่งมอบบุคลากรหรือระบบสนับสนุน แต่คือการเข้าไปเป็นฟันเฟืองหลักที่ขับเคลื่อนองค์กรไทยให้สามารถบริหารความไม่แน่นอน สร้างความยืดหยุ่น และแข่งขันได้ในทุกจังหวะของเศรษฐกิจไม่ว่าจะขึ้นหรือลง

“โลกเปลี่ยนเร็วเกินคาด องค์กรที่ปรับตัวได้ไว จะไม่ใช่แค่รอด แต่ต้องเติบโตได้ก่อนใคร ดังนั้นการบริหารองค์กรในยุคนี้ต้องเริ่มจากผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่กระบวนการ เชื่อว่าองค์กรที่อยู่รอด และเติบโตได้ ต้องกล้าตัดสิ่งที่ไม่ใช่จุดแข็ง และมอบหมายให้ Partner ที่เชื่อถือได้ดูแลในสิ่งที่ทำได้ดีกว่า นั่นคือสิ่งที่ เราทำให้ลูกค้า และทำได้ดี”

กัณธิมา แจ้งวันสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO

แม้ว่าความต้องการบริการ Outsourcing จะค่อนข้างหลากหลาย ดังนั้น บริษัทจึงไม่ใช่เพียงแค่การช่วยบริหารแรงงานหรือทรัพยากร แต่ยังนำเอาระบบสนับสนุนที่ออกแบบมาเพื่อองค์กรยุคใหม่ เข้ามาช่วยตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ได้แก่

  • ควบคุมต้นทุนได้แบบโปร่งใส : ผ่านโมเดลค่าบริการแบบ Cost Plus ที่สามารถติดตาม วิเคราะห์ และปรับตามความเป็นจริงอย่างยืดหยุ่น โดยลูกค้าสามารถเข้าใจองค์ประกอบต้นทุนได้ครบถ้วน ลดความเสี่ยงด้านการเงินและสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว
  • มีระบบวิเคราะห์ผลเชิงปฏิบัติการ (Operational Analytics) : ช่วยให้องค์กรลูกค้าเห็นข้อมูลสำคัญแบบ Real-time ทั้งด้านประสิทธิภาพคน กระบวนการ และต้นทุน พร้อมรายงานที่ใช้วางแผนได้จริง ไม่ใช่แค่เพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง
  • ขยายบริการตาม Demand ได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม : ด้วยโครงสร้างที่ยืดหยุ่นของ SO ลูกค้าสามารถเพิ่มจำนวนบุคลากร ยานพาหนะ หรือบริการเฉพาะด้านได้ตามช่วงเวลาหรือโครงการสำคัญ โดยไม่ต้องลงทุนจ้างพนักงานประจำหรือจัดซื้อทรัพยากรล่วงหน้า ลด Fixed Cost และเพิ่ม Operational Flexibility อย่างแท้จริง

ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ ทำให้ SO ไม่เพียงช่วยให้องค์กรลดต้นทุน แต่ยังช่วย เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และปรับตัวได้ทันกับโลกธุรกิจที่เปลี่ยนเร็วในทุกจังหวะ และพร้อมส่งมอบผลลัพธ์ที่วัดได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน 4 แกนธุรกิจได้แก่

  • SO PEOPLE : คัดเลือก พัฒนา และบริหารบุคลากรที่เหมาะกับองค์กรลูกค้า ด้วยมาตรฐานบริการระดับสูง
  • SO WHEEL : ให้บริการยานพาหนะพร้อมระบบควบคุมครบวงจร ตั้งแต่ GPS ไปจนถึงรายงานผลแบบ real-time
  • SO GREEN : บริหารทรัพยากรสีเขียวอย่างมืออาชีพ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านรุกขกรและระบบตรวจสอบ 9 ขั้นตอน
  • SO NEXT : บริหารข้อมูล และธุรกรรมองค์กรด้วยระบบอัตโนมัติอย่างแม่นยำ ปลอดภัย และตรวจสอบได้ ครอบคลุมตั้งแต่ OCR, FLOW ไปจนถึงการควบคุมสิทธิ์และวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

"หนึ่งในหัวใจสำคัญของแผนครึ่งปีหลัง คือ การขยายบริการ Outsourcing แบบครบวงจรให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง อาทิ การเงิน ประกัน พลังงาน ธุรกิจบริการ และภาครัฐ มีความต้องการระบบสนับสนุนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างเป็นระบบ"

ทั้งนี้ SO ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าใหม่ในกลุ่มดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 20% ภายในสิ้นปี โดยบริการของ SO ครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาและบริหารจัดการบุคลากร การจัดการยานพาหนะและอุปกรณ์สำนักงาน ไปจนถึงการดูแลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนด

โดยมุ่งยกระดับคุณภาพการให้บริการเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุด และสร้างการรับรู้แบรนด์ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ขององค์กรไทย

“เป้าหมายของเราคือ ไม่เพียงแค่การเติบโตทางรายได้ แต่รวมถึงการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจ Outsourcing ให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไทยให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค เราเชื่อว่าบทบาทของ SO จะไม่ใช่แค่ผู้ให้บริการ แต่คือพาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์ในระยะยาวของลูกค้าทุกกลุ่ม” 

ด้วยการผสานประสบการณ์กว่า 40 ปี ความเข้าใจในบริบทธุรกิจของไทย และความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง สยามราชธานีจึงพร้อมก้าวสู่บทบาทผู้นำในตลาด Outsourcing ที่ตอบโจทย์ทั้งวันนี้และอนาคตอย่างแท้จริง