Liberator คาดตลาดหุ้นไทยมีลุ้นฟื้นตัว กรอบ 1,050 - 1,085 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 24 มิ .ย. 68 ว่า คาด SET วันนี้ ฟื้นตัว ในกรอบ 1,050 - 1,085 จุด หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน

หนุนความคาดหวังว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจผ่านพันจุดเลวร้ายที่สุดแล้ว ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกย่อตัวแรง โดยวานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดที่ 71.48 ดอลลาร์ (-7.2%) ทำระดับต่ำสุดใน รอบ 7 วันทำการ ซึ่งช่วยหนุนให้หุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวในช่วงท้ายตลาด (S&P500 +0.96%)

นอกจากนี้ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ วานนี้ มีการรายงานดัชนี PMI เดือน มิ.ย. ที่ดีกว่าคาด โดยภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 52.0 จุด ดีกว่าคาดที่ 51.0 จุด และภาคบริการที่ 53.1 จุด ดีกว่าคาดที่ 53.0 จุด ส่วนด้านยูโรโซน พบว่า PMI ภาคการผลิตทรงตัวที่ 49.4 ต่ำคาดที่ 49.7 จุด ขณะที่ภาคบริการขยับขึ้นมาที่ ระดับ 50 จุดได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามคาด

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดอ่อนตัวลงสู่ระดับ 4.349 (-3bps) ขานรับถ้อยแถลงของ Michelle Bowman ผู้ว่าการ Fed ที่ส่งสัญญาณพร้อมสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ยได้เร็วสุดในเดือนกรกฎาคมนี้

ขณะที่ตลาดหุ้นไทย คาดมีลุ้นฟื้นตัว หลังความวุ่นวายในตะวันออกกลางมี แนวโน้มผ่อนคลาย ผสานความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยแนะสะสมหุ้น Big Cap โซนสางที่แนวโน้มผลประกอบการยังคาดอยู่ใน เกณฑ์ดี และมี Valuation ไม่แพง

ปัจจัยที่ต้องจับตา

24 มิ.ย.

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conf. Board ของสหรัฐฯ
• ประชุม ครม.

25 มิ.ย.

• การประชุม กนง.
• ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ
• สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ

26 มิ.ย.

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ของสหรัฐฯ
• GDP ไตรมาส 1/68 (ครั้งที่ 3)

หุ้นเด่นแนะนำ

GULF ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท

• คาดแนวโน้มธุรกิจยังเติบโตเด่น ทั้งจากธุรกิจพลังงานที่ยังมีโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผสานกับการนำเข้า LNG เพิ่มเติมจะช่วยการประหยัด ต้นทุนมากยิ่งขึ้นในช่วงถัดไป
• ส่วนธุรกิจดิจิตอลยังมีความต้องการสูง โดยคาดจะเริ่มรับรู้รายได้จาก Data Center เฟสแรกในช่วงไตรมาส 3/68
• ฐานะการเงินแข็งแกร่งหลังการควบรวม INTUCH ส่งผลให้ D/E ratio ลดสู่ 0.8 เท่าจากเดิมที่ 1.8 เท่า