“พิชัย” รื้อนโยบายลงทุน เปิดทางบริษัทประกัน ลงทุนหุ้นไทยเพิ่ม

26 พ.ค. 2568 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ค. 2568 | 08:24 น.

“พิชัย” รองนายกฯ และรมว.คลัง ชี้หุ้นไทยมีเสน่ห์ จ่อรื้อนโยบายลงทุน ถกกองทุนทบทวนลงทุนดัชนีหุ้น 1,100-1,200 พร้อมเปิดทางบริษัทประกัน ลงทุนหุ้นไทยเพิ่ม

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อเรื่อง เสน่ห์หุ้นไทย พลังผลักดันเศรษฐกิจ ว่า ภาพรวมหุ้นไทยในบางกลุ่มค่อนข้างคงที่ มองว่าเสน่ห์หุ้นยังมีอยู่ หุ้นพื้นฐานยังเป็นปัจจัยสำคัญของการลงทุน โดยจากนโยบายสหรัฐฯ ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงน้อย เมื่อเทียบกับภูมิภาค ซึ่งเป็นสัญญาณว่าหุ้นไทยอยู่ได้ หากไม่มีปัจจัยร้ายแรง 

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นอกจากนี้ ได้มีการคุยกับกองทุนหลายแห่งถึงการทบทวนหุ้นในดัชนี 1,100-1,200 และนโยบายการลงทุน ขณะเดียวกัน ในหลายเรื่องๆ อาจจะมีการแก้กติกานักลงทุนสถาบันหลายแห่ง เช่น กองทุนประกันภัย ซึ่งยังมีกติกาที่ไม่ได้แก้ไขมานาน ทำให้การลงทุนในหุ้นทำไม่ได้ หรือทำได้น้อย โดยบางกองทุนมีขนาดใหญ่มาก มูลค่าหลายแสนล้านบาท แต่ลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลเพียงอย่างเดียว เป็นต้น

ทั้งนี้ เรื่องที่สำนักงานตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) จะต้องดำเนินการต่อ คือ การสนับสนุนให้นักลงทุนมองระยะยาว บริษัทใหญ่จะต้องมารีวิวการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องทิศทางโลก โดยเฉพาะเรื่องกรีน ส่วนบริษัทขนาดเล็ก อาจจะมีโอกาส มีขีดความสามารถ จะต้องสนับสนุนให้มีโอกาสสร้างการเติบโตไปสู่บริษัทขนาดกลาง และใหญ่ โดยเร็วๆ นี้ ประกาศกฎกระทรวงจะออกมาเพื่อสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว 

ขณะเดียวกัน ในเรื่องพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์นั้น เราพยายามผลักดัน มาตราที่ควบคุมและกำกับให้ได้ เช่น Short Sell ซึ่งหากตรวจสอบได้อาจจะมีโทษทางแพ่งและอาญา เหมือนกับต่างประเทศ เป็นต้น ทั้งนี้ ได้ปรับเรื่องการลงโทษ การสืบสวนและสั่งฟ้องให้อัยการได้ด้วยตัวเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน ขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินการออกพ.ร.บ.อยู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

ส่วนในเรื่องดิจิทัลนั้น ไทยมีพ.ร.บ.หลักทรัพย์ และพ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล ขณะนี้ได้มีการแก้กฎหมายให้นักลงทุนที่อยู่ในพ.ร.บ.หลักทรัพย์ ข้ามไปลงทุนในพ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัลได้

โดยรัฐบาลได้เตรียมออก G-token สร้างทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุน และในรูปแบบดิจิทัลนั้น ไม่ได้กำหนดเม็ดเงินในการลงทุนสูง อีกทั้ง จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์เงินฝากในสถาบันการเงิน และก.ล.ต. จะมีการประชุมบ่ายนี้ เพื่อให้เรื่องดังกล่าวเดินหน้าต่อไปได้ โดยได้ขอความร่วมมือ ไบแนนซ์ และบิทคับ เป็นศูนย์ซื้อขายในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ มีหลายเรื่องที่เราจะทำ ซึ่งในต่างประเทศสามารถนำคริปโตมาซื้อสินค้าได้ แต่เรายังทำไม่ได้ แต่มีแนวคิด กรณีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทย สามารถใช้บิทคอยน์ในการซื้อสินค้าได้ โดยมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้เลย เป็นต้น