ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 พ.ค.นี้ ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาสั่งให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ลดลงจากที่กระทรวงการคลังเรียกร้องเดิม 35,717 ล้านบาท จบข้อพิพาททางกฎหมายที่ยืดเยื้อกว่า 8 ปี
โดยก่อนหน้านี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนศาลปกครองสูงสุดพิพากษา ว่า กระทรวงการคลังพร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งหากตัดสินอย่างไร กระทรวงการคลังก็พร้อมดำเนินการตามคำพิพากษาของศาล
“เรื่องนี้ถือว่าชัดเจน เราพร้อมดำเนินการตามคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุด”นายลวรณ กล่าว
สำหรับศาลปกครองสูงสุดนั้น พิพากษากลับคำตัดสินของศาลปกครองกลางให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจำนำข้าวเพียงส่วนหนึ่ง โดยพิจารณาจากระดับความรับผิดชอบที่แท้จริง
โดยศาลเห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวฯ ไม่ได้ติดตามการระบายอย่างเต็มความสามารถและใกล้ชิด และเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการกขค.เพียงครั้งเดียว และตลอดการดำเนินโครงการมีหนังสือทักท้วง และมีข้อเสนอแนะจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินว่าโครงการมีการทุจริต ขอให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว แต่ก็ยังดำเนินโครงการต่อพฤติการณ์ดังกล่าว
จึงเห็นได้ว่ายังคงละเว้นเพิกเฉยไม่ติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลความเสียหายให้ทราบเพื่อป้องกันปัญหาซึ่งโดยวิสัยของผู้ฟ้องคดีที่ 1 เมื่อได้รับทราบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นก็ควรติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิด แต่ไม่ได้ดำเนินการจนทำให้เกิดเหตุทุจริตส่งผลให้การระบายข้าวไม่ทัน ต้องนำมาเก็บไว้และเกิดการเน่าเสียพฤติการณ์ของนางสาวยิ่งลักษณ์จึงเป็นการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงที่ต้องรับผิดทางละเมิดต่อกระทรวงการคลัง
ส่วนกรณีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีนาปังเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่จึงเห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายทางละเมิดในส่วนนี้ จึงมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 10,028 ล้านบาท