ตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่งขึ้น กรอบ 1,160-1,200 จุด ลุ้น กนง.หั่นดอกเบี้ย

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 30 เม.ย.68 ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกคาดตอบรับเชิงบวกจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นและอินเดีย ที่น่าดีขึ้น ช่วยหักล้างข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วานนี้ เช่น ตัวเลขเปิดรับสมัครงาน (JOLTS Job openings) ที่ต่ำกว่าคาด

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ที่น่าติดตามของทางฝั่งสหรัฐฯ แนะจับตา GDP ไตรมาส 1/68 โดยคาดจะหดตัวสู่ระดับ -0.2% จากไตรมาสก่อน จากไตรมาส 4/67 ที่ +2.4% จากไตรมาสก่อน และ Core PCE สหรัฐฯ เดือนมี.ค. ที่คาดลดลงสู่ระดับ +2.6% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน จาก +2.8% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ในเดือนก่อนหน้า

ด้านยูโรโซน แนะติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 1/68 โดยคาดขยายตัว +1.1% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน และ +0.2% จากไตรมาสก่อน 

ขณะที่ประเด็นในประเทศวันนี้ ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยทางฝ่ายคาดว่า กนง. มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยลง 0.25% สู่ระดับ 1.75% เนื่องจากความเสี่ยงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่องประเด็นภาษีการค้า, การชะลอตัวของภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวไทย

ซึ่งอาจส่งผลให้ GDP ไทยปีนี้มีโอกาสต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ จึงเป็นแรงหนุนให้ กนง. อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 
 

โดยกลยุทธ์การลงทุน หาก กนง. ลดดอกเบี้ยในรอบนี้ จะเป็นแรงหนุน SET มีโอกาสขึ้นทดสอบต้านสำคัญบริเวณ 1200 จุด เน้นสะสมกลุ่มไฟแนนซ์, โรงไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์ เด่น แต่ในทางกลับกันหาก กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย จะเป็นจิตวิทยาเชิงลบ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น 

ปัจจัยที่ต้องจับตา

30 เม.ย.

• ประชุม กนง.
• จ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ จากADP
• สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ
• GDP ไตรมาส 1/68 ยูโรโซน & สหรัฐฯ
• Core PCE สหรัฐฯ 
• PMI ภาคการผลิตและบริการของจีน

01 พ.ค.

• ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ
• ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ
• PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ
• การประชุม BOJ

หุ้นเด่นแนะนำ

GPSC ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 35.25 บาท

• คาดกำไรไตรมาส 1/68 ที่ 1,138 ล้านบาท ขยายตัว ทั้ง +32% เทียบช่วงเดีวกันในปีก่อน และ +14% จากไตรมาสก่อน  จากค่าใช้จ่ายและต้นทุนการเงินที่ลดลง
• ราคาก๊าซที่ยังคงปรับลดลงต่อเนื่องคาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อการลงทุนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
• การขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ ช่วยลดความเสี่ยงจากประเด็นในประเทศ