SET Index ย่อตัว กรอบ 1,120-1,150 จุด หลังสงครามการค้ายังว้าวุ่น

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 22 เม.ย.68 ว่า SET Index ย่อตัว ในกรอบ 1,120-1,150 จุด รับปัจจัยทรัปม์อยากปลดประธาน FED กระตุ้นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง ความวุ่นวายสงครามการค้าที่กลับมารุนแรงขึ้น รวมถึงแผนการเจรจาของไทยถูกเลื่อนออกไป 

โดนัล ทรัมป์กำลังพิจารณาว่าตนเองมีอำนาจในการถอดถอนประธาน FED ได้หรือไม่ เนื่องจากมีความไม่พอใจต่อนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน FED ที่ไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ประเด็นนี้สร้างความกังวลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการแทรงแซงความเป็นอิสระของธนาคารกลาง กดดันให้วานนี้ S&P500 -2.36% และ Dollar Index ทำจุดอ่อนสุด่ต่อเนื่องในรอบ 3 ปี ลงสู่ระดับ 98.278 จุด

ความวุ่นวายเรื่องการเจรจาการค้ากลับมารุนแรงขึ้น โดยสหรัฐฯเรียกร้องให้ประเทศต่างๆลดการค้ากับจีน ในขณะที่จีนออกมาเตือนว่าประเทศใดที่ไปเจรจากับสหรัฐฯและทำให้จีนเสียผลประโยชน์ จีนจะมีการออกมาตรการตอบโต้กับประเทศนั้นเช่นกัน ส่งผลให้วานนี้ SET ภาคบ่ายมีแรงเทขายหนักปิดย่อตัวราว -1.4%

ส่วนการเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ที่มีกำหนดในวันที่ 23 เม.ย. นี้ ล่าสุดมีการเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยต้องรอการตอบกับจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ว่าจะได้คิวอีกทีเมื่อไหร่ ซึ่งจุดนี้สร้างความกังวลมากขึ้นต่อ SET

นอกจากนี้ การอยู่ในช่วงทยอยรายงานงบไตรมาส 1/68 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกลุ่มธนาคารรายงานออกมาแล้ว พบว่า 7 ธนาคารหลักมีกำไรรวม 5.8 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงตลาดคาด (+5%) แต่พิจารณาเพิ่มเติมจะพบว่าสินเชื่อหดตัว, ส่วนต่างดอกเบี้ยชะลอลง และแนวโน้ม NPL ขยับขึ้น ดังนั้นประเมินกลุ่มธนาคารในระยะสั้นยังไม่น่าสนใจ และ SET อาจต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

ปัจจัยที่ต้องจับตา

22 เม.ย.68

• ประชุม ครม.

23 เม.ย.68

• ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของ สหรัฐฯ &  ยูโรโซน, ญี่ปุ่น
• ยอดขายบ้านใหม่ สหรัฐฯ
• สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ สหรัฐฯ

24 เม.ย.68

• ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน สหรัฐฯ
• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สหรัฐฯ
• ยอดขายบ้านมือสอง สหรัฐฯ

หุ้นเด่นแนะนำ

BDMS ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 30.00 บาท

• คาดกำไรไตรมาส 1/68 ยังเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติและชาวไทย รวมทั้งผลกระทบจากเดือนรอมฎอนที่ไม่มากนัก
• ส่วนภาพรวมปีนี้คาดกำไรเติบโตราว +10% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ส่วนภาพระยะยาวมีแนวโน้มเชิงบวกจากแผนการเพิ่มจำนวนเตียงที่มากขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเทียบเคียงใกล้ระดับ -2.0SD ถือว่าเป็นระดับที่น่าทยอยสะสม