ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่ง Sideway กรอบ 1,140-1,160 จุด สัปดาห์แห่งการเจรจา
บล.ลิเบอเรเตอร์ คาด SET วันนี้ Sideways ในกรอบ 1,140 - 1,160 จุด เข้าสู่ช่วงการเจรจาการค้า ยังอาจผันผวน กดดัน DXY อ่อนสุดรอบ 3 ปี แต่ไทยยังคาดหวังบวกต่อการเจรจาในช่วงกลางสัปดาห์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ 21 เม.ย.68 ว่า คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,140 - 1,160 จุด เข้าสู่ช่วงการเจรจาการค้า ยังอาจผันผวน กดดัน DXY อ่อนสุดรอบ 3 ปี แต่ไทยยังคาดหวังบวกต่อการเจรจาในช่วงกลางสัปดาห์
สัปดาห์นี้คาดตลาดจับตาไปที่การเจรจาการค้าสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ ซึ่งอาจยังทำให้ตลาดโลกยังผันผวน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่แนะเกาะติดในสัปดาห์นี้ คือ การายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการทั้วโลก ประจำเดือนเมษายน
ซึ่งหากดูจากคาดการณ์แล้ว มีแนวโน้มที่ชะลอตัวลงอาจเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมได้ ส่วนด้านค่าเงินล่าสุดพบว่า Dollar Index ยังโดนแรงกดดันจากท่าทีของทรัมป์ทั้งประเด็นสงครามการค้า และความไม่พอใจประธาน FED กดให้ DXY หลุดระดับ 100 จุด อ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปี
ส่วนตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมา +1.9% จากสัปดาห์ก่อน ปิดที่ระดับ 1,150 จุด ถือว่าทำได้ดี โดยทางฝ่ายคาดว่าสัปดาห์นี้ยังมีลุ้นแกว่งขึ้นต่อ หากการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในวันที่ 23 เมษายน นี้ออกมาในเชิงบวก
โดยดูจากการเตรียมตัวของทีมไทย ที่มีแนวทางในการพยายามลดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ โดยจะนำเข้าสินค้าเกษตรและพลังงานจากสหรัฐฯมากยิ่งขึ้น น่าจะทำให้สหรัฐฯพอใจได้ นอกจากนี้ยังแนะติดตามการรายงานงบไตรมาส 1/68 ของบริษัทจดทะเบียน
โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วเริ่มทยอยออกมาบางส่วนแล้ว เช่น BBL, TISCO, KTB, TTB ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดคาด แต่ไม่เด่นนัก เนื่องจากสินเชื่อมีแนวโน้มชะลอตัว, ส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝาก (NIM) ลดลง และน่าจะลดต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/68 ด้วย และคุณภาพสินทรัพย์ ก็ค่อนข้างแย่ลง (NPL มากขึ้น) ดังนั้นอาจต้องระวังมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยที่ต้องจับตา
21 เม.ย.68
- ดอกเบี้ย Loan Prime Rate ของจีน
22 เม.ย.68
- ประชุม ครม.
23 เม.ย. 68
- ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการของ สหรัฐฯ & ยูโรโซน และ ญี่ปุ่น
- ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
- สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์สหรัฐฯ
- การเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯ
หุ้นเด่นที่ต้องจับตา
BTG ราคาเป้าหมายเขิงกลยุทธ์ 24.10 บาท
- คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 จะเติบโตทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน สอดคล้องกับราคาหมูในประเทศที่ปรับขึ้นเด่น จากอุปทานที่ออกสู่ตลาดไม่มากนัก โดยตั้งแต่ต้นปีราคาปรับตัวขึ้นแล้ว +19% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
- ผสานกับด้านต้นทุนสินค้าเกษตรเลี้ยงสัตว์ในระยะสั้นยังมีแนวโน้มลดลง คาดหนุนอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น ขณะที่ Valuation ปัจจุบันเทรดเพียง PE 10.6 เท่า น่าทยอยสะสม