KTC คงเป้าหมายกำไรสุทธิปี 2567 ไม่ต่ำกว่า7,295 ล้าน

นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC  ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ในช่วงไตรมาส 2/2567 ว่าอาจยังไม่ได้มีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นมากอย่างชัดเจน ทำให้มีผลกระทบกับทางบริษัทโดยตรง ทั้งในแง่ของการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และในแง่ของการใช้จ่ายผ่านบัตร แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จะดีขึ้น

ทั้งนี้ จากการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อ ผู้ที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 50,000 - 100,000 บาท ซึ่งถือเป็นฐานที่มีความสามารถในการใช้จ่ายที่สูง ทำให้จะเข้ามาช่วยหนุนธุรกิจในช่วงครึ่งแรกปีได้ ระหว่างนี้ก็มุ่งเน้นในเรื่องการรักษาคุณภาพพอร์ตและลูกหนี้ และค่าใช้จ่าย ควบคู่กันไปด้วย

โดยธุรกิจบัตรเครดิต ในไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมาแล้วครึ่งทาง บริษัทเห็นการเติบโตแล้วในแบบตัวเลข 2 หลัก ซึ่งดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่มีอัตราการขยายตัวของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ 8.5% จากปีก่อน จากเป้าหมายทั้งปี 2567 ที่ไม่น้อยกว่า 15% และจากการมุ่งเน้นขยายฐานในกลุ่มที่มีกำลังซื้อทำให้คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2567 จะยังรักษาระดับอัตราการเติบโตไว้ได้

ในไตรมาส 1/2567 ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC มีมูลค่า 69,473 ล้านบาท เติบโต 8.5% จากปีก่อน มีสมาชิกทั้งสิ้น 3.42 ล้านบัญชี แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2.69 ล้านบัตร เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน และทั้งปี 2567 ตั้งเป้าการเปิดบัตรใหม่ไว้ราว 100,000 ใบ

ส่วนธุรกิจสินเชื่อบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) มองว่าในช่วงเดือนเมษายน และ ครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ยอดการเบิกถอนเงินสูงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 เนื่องจากความต้องการใช้เงินหลังจากพ้นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ และเข้าสู่การเปิดเทอม ทำให้มีความต้องการใช้เงินมากขึ้น ทำให้คาดว่าอัตราการเติบโตพอร์ตลูกหนี้ KTC PROUD ในไตรมาส 2/2567 จะดีกว่าไตรมาสแรกของปีนี้ที่ 3.9% จากเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 5%

ด้านธุรกิจจำนำทะเบียนรถภายใต้ชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” มองว่าในไตรมาส 2/2567 มีการเติบโตที่ดีขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 ที่มียอดสินเชื่อใหม่จำนวน 611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.6% จากปีก่อน แต่ต้องยอมรับว่ายังโตได้ช้ากว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทยังคงเป้ายอดลูกหนี้ใหม่ของสินเชื่อเคทีซี พี่เบิ้ม ทั้งปี 2567 ไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท

ทั้งนี้  KTC ยังคงเป้าหมายการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2567 ไว้ที่ไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 7,295 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ทำได้แล้วที่ 1,803 ล้านบาท และยังคงเป้าหมายอัตราการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อรวมไว้ที่มากกว่า 6-7% จากในไตรมาส 1/2567 ที่เติบโตได้ราว 2.0% ขณะเดียวกันก็ยังคงความสามารถในการรักษรระดับคุณภาพของหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ไว้ที่ไม่เกินเกณฑ์ 2.0% ซึ่งในไตรมาสแรกปีนี้ก็ทำได้ตามเป้าที่ 2.0%