"ยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล" ปักธงยอดขาย ZEN ปี 67 แตะ 4.1 พันล้าน
ZEN กางแผนงานปี 67 ตั้งเป้ารายได้จากการขายโต 17% จากปีก่อน แตะ 4.1 พันล้าน ยิ้ม Easy e-Receipt หนุนยอดขายในไตรมาส 1/67 ขยายตัวกว่า 20% วางงบ 345 ล้าน รองรับการเพิ่มประสิทธิภาพบริษัทย่อย และการเพิ่มสาขาใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เปิดเผยว่า แผนงานปี 2567 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ระดับไม่น้อยกว่า 4,100 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตประมาณ 17% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 3,945 ล้านบาท โดยมองว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อ รวมถึงการเปิดประเทศท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของภาครัฐ ช่วงทำให้บรรยากาศในการใช้จ่ายปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทคาดว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการลดหย่อนภาษี “Easy e-Receipt” เข้ามาช่วยหนุนพอสมควร แม้ว่าในช่วงเดือนมกราคม 2567 ที่เริ่มต้นใช้งานยอดขายอาจยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ยอดขายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงกว่า 20% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน ทำให้บริษัทคาดว่าจะมาช่วยหนุนยอดขายในไตรมาส 1/2567 ให้เติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 913 ล้านบาทได้
บริษัทวางเป้าหมายยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ในปี 2567 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 3% และจะพยายามผลักดันให้เพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 5% หากว่าสภาพเศรษฐกิจมีการขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวขยายตัวได้ตามคาดการณ์ และไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบรุนแรง ในส่วนของความสามารถในการรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นนั้น มองว่ายิ่งเร่งการขยายสาขามากขึ้นเท่าไหร่ ก็อาจมีผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญในการขยายสาขาใหม่และการบริหารจัดการต้นทุนให้มาก
ในส่วนงบลงทุนในปี 2567 บริษัทวางไว้ที่ประมาณ 345 ล้านบาท หลักๆ เพื่อรองรับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้กับบริษัทย่อย ZKC และ KMF รวมถึงการขยายสาขาใหม่ๆ ให้กับแบรนด์ร้านอาหารในเครือเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปีนี้ บริษัทมีตั้งเป้าหมายจะมีสาขาเพิ่มเป็น 365 สาขา แบ่งเป็นการลงทุนเอง 196 สาขา และแฟรนไชส์ 169 สาขา จากสิ้นปีก่อนที่มีสาขารวมทั้งสิ้น 341 สาขา เป็นสาขาที่ลงทุนเอง 182 สาขา และแฟรนไชส์ 159 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ในประเทศญี่ปุ่นและมาเลเซียเพิ่มอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 สาขา หลังจากที่ไปทดลองตลาดในช่วงที่ผ่านมาและได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี ขณะที่ในประเทศจะขยายสาขาที่เป็นแฟรนไชส์เพิ่มอีก 10-15 สาขา ในส่วนของการลงทุนขยายสาขาเองคาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 20-25 สาขาในปี 2567 นี้
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาใหม่ จำนวน 10 สาขา แบ่งออกเป็นในช่วงเดือนมกราคม จำนวน 3 สาขา ได้แก่ ลาวญวน 2 สาขา ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเซ็นทรัล นครสวรรค์ และร้าน ZEN ที่เซ็นทรัล นครสวรรค์, เดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 2 สาขา ได้แก่ ร้าน On tha table 1 สาขา และร้านเขียง 1 สาขา ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. รามอินทรา กม.3 และในเดือนมีนาคม เปิดร้านเขียงที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น 1 สาขา ร้าน On tha table เซ็นทรัล พิษนุโลก ร้าน ZEN เซ็นทรัล นครปฐม ร้านลาวญวน เซ็นทรัล นครปฐม และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ในการเข้าซื้อกิจการหรือการทำ M&A อย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจที่บริษัทสนใจลงทุนจะต้องเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจอาหารทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ปัจจุบันมีที่อยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ในมือบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน