หุ้นกู้ "กัลฟ์ - พลังงานบริสุทธิ์" ชูเรตติ้ง A เปิดจองซื้อสัปดาห์นี้

24 ก.ย. 2566 | 22:09 น.

หุ้นกู้เรตติ้ง A " GULF " เปิดขาย 5 ชุด อัตราดอกเบี้ย 3.37-4.32% ต่อปี จองซื้อเริ่ม 25-27 ก.ย. 66 ส่วนหุ้นกู้กรีนบอนด์ "EA" เปิดขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป 3 ชุด อายุ 1- 5 ปี ดอกเบี้ย 3.20 - 4.10% ต่อปี จองซื้อ 26-28 ก.ย.นี้

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่2/2566 จำนวน 5 ชุด รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 12,000,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 12,000 ล้านบาท  โดยมีหุ้นกู้สำรองเพื่อเสนอขายเพิ่มเติมไม่เกิน 3,000 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 15,000 ล้านบาท ระยะเวลาจองซื้อหุ้นกู้ วันที่ 25 - 27 กันยายน 2566

โดยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ A แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยผู้ออกหุ้นกู้จะจัดให้มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้จากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่สำนักงาน ก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบตลอดอายุของหุ้นกู้แต่ละชุด
 

หุ้นกู้ GULF  5 ชุด ประกอบด้วย

  • ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 (หุ้นกู้ชุดที่ 1) อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.37 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 6,000 ล้านบาท 
  • ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 (หุ้นกู้ชุดที่ 2) อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.88 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท
  • ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2573 (หุ้นกู้ชุดที่ 3) อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.95 ต่อปี  ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 3,200 ล้านบาท
  • ชุดที่ 4 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2576 (หุ้นกู้ชุดที่ 4) อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.32 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
  • ชุดที่ 5 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 (หุ้นกู้ชุดที่ 5) อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.50 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 3,800 ล้านบาท

ทั้งนี้หุ้นกู้ชุดที่ 1 หุ้นกู้ชุดที่ 2 หุ้นกู้ชุดที่ 3 และ หุ้นกู้ชุดที่ 4 จะเสนอขายให้แก่ ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ส่วนหุ้นกู้ชุดที่ 5 จะเสนอขายให้เฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่ (*ยกเว้นสหกรณ์)

โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารยูโอบี และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
 

 


บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) ยื่นร่างแบบแสดงรายการต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน 

หุ้นกู้ EA แบ่งออกเป็น

  • ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี
  • ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี
  • ชุดที่ 3 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2571 อัตราดอกเบี้ย 4.10% ต่อปี

เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไป (โดยให้บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ลงทุนสถาบันจองซื้อในฐานะผู้ลงทุนทั่วไปเท่านั้น)
ระยะเวลาในการจองซื้อหุ้นกู้ : 26 -28 กันยายน 2566 โดยมีผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 
ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด 
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) 
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัดและ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 

จัดอันดับความน่าเชื่อถือโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566     

องค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A-
หุ้นกู้จัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ A-

วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ บริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ดังนี้

1. เพื่อชำระคืนหนี้เดิมที่ได้กู้ยืมมาเพื่อให้เช่าซื้อรถโดยสารไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเป็นรถโดยสารไฟฟ้าที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) มีแรงบิดและอัตราเร่งสูง ปราศจากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และมลภาวะทางด้านเสียง ทำให้ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งลดการปล่อยมลพิษโดยตรง(tailpipe emission) และโดยอ้อมจากพฤติกรรมผู้โดยสารที่จะเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารไฟฟ้ามากขึ้น (modal shift)

2. เพื่อให้สินเชื่อเช่าซื้อรถโดยสารไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเป็นรถโดยสารไฟฟ้าที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) มีแรงบิดและอัตราเร่งสูง ปราศจากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ก่อให้เกิดมลภาวะทางอากาศ และมลภาวะทางด้านเสียง ทำให้ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งทั้งลดการปล่อยมลพิษโดยตรง (tailpipe emission) และโดยอ้อมจากพฤติกรรมผู้โดยสารที่จะเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารไฟฟ้ามากขึ้น (modal shift)