CIMBTเล็งเพิ่มพันธมิตรต่อยอดธุรกิจWealth

ซีไอเอ็มบีไทยกางยุทธศาสตร์ Wealth ปี 2566  ดูแลลูกค้าทุกระดับ ทุกลำดับชีวิต รวมทั้งเพิ่มทางเลือกทำธุรกรรมออนไลน์ในกลุ่มสูงวัย   เผยแผนระยะยาว 5-7ปีเล็งเพิ่มพันธมิตรหลายรายนอกอุตสาหกรรมทั้งด้านเทคโนโลยี  และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หวังช่วยขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเติบโต 1,000% ขณะที่ระหว่างทางตั้งเป้าขยับ 10%ต่อปี

นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออม ธุรกิจรายย่อย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่าการดำเนินธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในปี 2566 ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้า และสินทรัพย์ภายใต้บริหารจัดการ (AUM) ขยายตัวต่อปี  10%

ปัจจุบันมีฐานลูกค้าหลายแสนราย ส่วนใหญ่เป็นสัดส่วนของพอร์ตเพื่อการลงทุนมากกว่าพอร์ตเงินฝาก   นอกจากนี้ในระยะยาว 5-7ปียังมีเป้าหมายจะเติบโตทั้งฐานลูกค้าและAUMเพิ่มขึ้น 10 เท่าหรือเติบโตในอัตรา 1,000%

สำหรับเป้าหมายระยะยาว 5-7ปีที่มุ่งหวังจะเติบโตAUM 10เท่าหรือ 1,000%นั้นนายติยะชัย ชองระบุว่า  หากต้องการเติบโต 10เท่าหรือ 1,000% จำเป็นต้องเพิ่มพันธมิตรหลายรายนอกอุตสาหกรรมเพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ ซึ่งซีไอเอ็มบีไทยไม่ได้เป็นธนาคารใหญ่ และไม่มีจำนวนสาขาที่มากและฐานลูกค้า

ดังนั้น จึงต้องเลือกสนามที่มีโอกาสจะแข่งขันได้ โดยเฉพาะแนวโน้มที่จะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรนอกอุตสาหกรรมทั้งด้านเทคโนโลยี  และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยในการขยายฐานลูกค้าหรือเสิร์ฟบริการให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเจาะตลาดที่มีเวลธ์ไปในกลุ่มผู้สูงอายุด้วย

“ ปัจจุบันซีไอเอ็มบีไทยเป็นธนาคารอันดับ9ในไทยและซีไอเอ็มบีเป็นธนาคารอันดับ 5ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยเครื่องมือดิจิทัลที่เราใช้อยู่แล้วในปีที่ผ่านมาลูกค้าซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางCIMB THAI DIGITAL  BANKING เติบโตสูงถึง 391% ส่วนเงินฝากผ่านช่องทางนี้เติบโต 371% และสินเชื่อเพื่อการลงทุนเติบโต 253%ซึ่งในปี2566ยังคงมุ่งขยายการเติบโตสินเชื่อเพื่อการลงทุนรวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเป็น 70%จาก 50%”

ในแง่ของการแข่งขันนั้น ส่วนตัวมองจำเป็นที่อุตสาหกรรมต้องไปมุ่งเน้นกลุ่มเวลธ์  ซึ่งลูกค้าหรือผู้บริโภคจะได้รับอานิสงค์ เพราะผลิตภัณฑ์ปลายทางสลับกันได้ ในแง่จุดแข็งของซีไอเอ็มบีไทยจะครอบคลุมใน 2มิติ ได้แก่

1. ใช้ความเป็นเจ้าหลักของ market access ให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ดีที่สุดทั่วโลก เป็น platform สำหรับผลิตภัณฑ์การลงทุนทั้งหุ้นกู้อนุพันธ์ และกองทุนรวมต่างประเทศ (offshore fund) เพื่อเปิดประตูให้นักลงทุนเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนระดับโลก โดยทีมงาน Wealth Advisory by CIMB Thai Bank กว่า 50คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพลงทุน ให้คำแนะนำการลงทุนให้ลูกค้าอย่างชัดเจน เข้าใจ และไม่ได้เน้นขายราย product แต่ให้ความสำคัญกับความต้องการและผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นที่ตั้ง (customer centric)

2. ใช้ digital platform เป็นพลังขับเคลื่อนช่วยลูกค้าเข้าถึงการลงทุนง่ายขึ้นผ่านแอปหลัก CIMB THAI Digital Bankingพร้อมกับผลตอบแทนที่มากขึ้น

เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ชิลดี ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดที่ 2% สำหรับวงเงินฝาก 50,000 บาท กำลังจะขยายเป็น 100,000 บาทเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยเป็น tier ที่ให้ดอกเบี้ยสูงสุดในตลาดตอนนี้

หากลูกค้าสนใจกองทุนรวม ธนาคารได้เปิด Open Architecture digital platform ลูกค้าสามารถซื้อกองทุนรวมที่ดีที่สุดจากทุกบลจ.ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของธนาคาร

รวมทั้งเรื่อง เงินฝากดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า  หรือหุ้นกู้  และตลาดต่างประเทศ(Offshore) เช่น เงินฝากสกุลเงินดอลลาร์ฯ อัตราดอกเบี่ย 4.18%ต่อปี หรือกองทุนรวมต่างประเทศ ด้วยจุดแข็งที่ซีไอเอ็มบีไทยเป็นGate way  เป็นแบงก์แห่งอาเซียน และเครือข่ายแข็งแกร่งทั่วภูมิภาค

ธนาคารพร้อมเป็นประตูให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างประเทศได้ง่ายที่สุด อาทิ offshore bond หรือ offshore ELN ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีที่สิงคโปร์ หรือมาเลเซีย ผ่าน ASEAN passport   หากดูระดับโลกยังมีอีกหลายโปรดักต์ที่สามารถจะขยายได้ในไทย 

ที่ผ่านมาธนาคารได้ปรับโครงสร้างภายในของธุรกิจ Wealth Management เพื่อให้เข้าไปดูแลลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกระดับ และทุกลำดับชีวิตของลูกค้าอย่างเข้าถึงยิ่งขึ้น นำเสนอทุกผลิตภัณฑ์การลงทุนต้นน้ำยันปลายน้ำ เงินฝาก หุ้นกู้ทั้งตลาดแรกและตลาดรอง หุ้นกู้อนุพันธ์ ELN กองทุน ประกัน ให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้ 

“โครงสร้างธุรกิจ Wealth Management ภายใต้การดูแลของผม ปรับปรุงโครงสร้างเพื่อดูแลลูกค้าทุกกลุ่ม นอกจากสมาชิก CIMB Preferred ลูกค้า High Net Worth หรือ Ultra High Net Worth เราอยากให้ลูกค้าทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ลูกค้ารับได้ ทุกลำดับขั้นของชีวิตลูกค้า CIMB Thai มี shelf ที่กว้างและดีที่สุด มีผลิตภัณฑ์ครบ มี solution ที่สามารถสร้าง customer journey end to end” นายติยะชัย กล่าว