กองทรัสต์ WHART จ่อลงทุนเพิ่ม 3,566.49 ล้านบาท

01 พ.ย. 2566 | 05:42 น.

ก.ล.ต.ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่ง กองทรัสต์ WHART เพิ่มทุนครั้งที่ 8 เล็งขยายอาณาจักรลงทุนคลังสินค้าระดับ World-Class มูลค่า 3,566.49 ล้านบาท

กองทรัสต์ WHART ลุยขยายการลงทุนต่อเนื่อง เตรียมเพิ่มทุนครั้งที่ 8 ลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นกองทรัสต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการมากกว่า 1.74 ล้านตารางเมตร ลงทุนในทำเลยุทธศาสตร์การขนส่งสินค้าของประเทศไทย มูลค่าทรัพย์สินรวมหลังลงทุนเพิ่มแตะ 55,238.27 ล้านบาท 

นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เรียบร้อยแล้ว

นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด

ทั้งนี้กองทรัสต์ WHART ได้ยื่นแบบ Filling เพื่อเสนอขายหน่วยทรัสต์ สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 8 จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมมูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนได้แล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2566 นี้

ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ เป็นการลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูงของกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group  แบ่งเป็น

  • พื้นที่เช่าอาคารประเภทคลังสินค้า ประมาณ 142,896.00 ตารางเมตร
  • พื้นที่เช่าส่วนหลังคาของอาคารคลังสินค้าประมาณ 36,466.00 ตารางเมตร

นายอนุวัฒน์ กล่าวว่า แต่ละโครงการเป็นโครงการคลังสินค้าประเภท Built-to-Suit และ General Warehouse ในทำเลศักยภาพที่เป็นจุดเชื่อมต่อด้านการขนส่งสินค้าของประเทศทั้งในบริเวณบางนา-ตราด และพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมต่อทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือแหลมฉบัง และถนนสายหลัก ทำให้การขนส่งและการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพทั้งในด้านของระยะเวลาและต้นทุน ซึ่งทั้งงสองทำเลเป็นพื้นที่ที่กองทรัสต์ WHART ได้เข้าลงทุนอย่างต่อเนื่องและมีผลการดำเนินงานในด้านอัตราการเช่าเฉลี่ย (Average Occupancy Rate) ที่ดีมาโดยตลอด

โดยทรัพย์สินที่จะเข้าไปลงทุนจำนวน 3 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท ประกอบด้วย

  1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21
  2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1
  3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 

หนึ่งในอาคารคลังสินค้าที่ได้เข้าลงทุนในปีนี้เป็นอาคารที่ถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นตามมาตรฐานอาคารสีเขียวของ LEED Gold (Leadership in Energy & Environmental Design)  ซึ่งมุ่งเน้นการคัดสรรวัสดุและการใช้นวัตกรรมการออกแบบที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และยังเป็นอาคารที่มีการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อช่วยให้ผู้เช่ารายย่อยประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ส่งผลให้ผู้เช่าอาคารดังกล่าวได้รับประโยชน์โดยตรงจากการใช้อาคารอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งตรงกับนโยบายในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของกองทรัสต์ฯ โดยใน 5 ปีที่ผ่านมา กองทรัสต์ฯ เองได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลจากสถาบันไทยพัฒน์

นอกจากนี้ กองทรัสต์ WHART ยังจะได้ผู้เช่าอาคารคลังสินค้าที่มีศักยภาพ ทั้งในด้าน branding และอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มั่นคงอย่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (Third Party Logistics) และกลุ่มผู้ผลิต (Manufacturer) ซึ่งการได้ผู้เช่าที่ดีในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ จะทำให้กองทรัสต์เองมีการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่มั่นคงและสร้างประโยชน์ตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยภายหลังจากการเข้าลงทุนครั้งนี้ กองทรัสต์คาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาว (Internal Rate of Return) อยู่ในระดับที่ประมาณ 9.80% 

อย่างไรก็ตาม หลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินหลักในครั้งนี้ จะส่งผลให้กองทรัสต์ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมแตะ55,238.27 ล้านบาท ถือเป็นกองทรัสต์ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากที่สุดในประเทศ มีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.89 ล้านตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร ซึ่งเป็นอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารโรงงาน ที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป (General Warehouse) ในทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ 

“กองทรัสต์ WHART ขยายขนาดกองทรัสต์จากการลงทุนเพิ่มเติมในทุกปี นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทรัสต์ ทำให้กองทรัสต์มีความมั่นคงทางรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่มั่นคงแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์มาโดยตลอด โดยรอบปี 2565 ได้จ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยในอัตรา 0.76 บาทต่อหน่วย สูงที่สุดนับตั้งแต่ได้มีการก่อตั้งกองทรัสต์ โดยหลังเพิ่มทุนครั้งนี้ได้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ 0.79 บาทต่อหน่วย ในรอบวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2567”นายอนุวัฒน์กล่าว