KEY
POINTS
นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภายใต้ภาวะที่เศรษฐกิจไทยเติบโตช้า หนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คือ การหดตัวต่อเนื่องของสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อ SMEs ที่ติดลบ 13 ไตรมาสติดต่อกัน จากทั้งความต้องการสินเชื่อธุรกิจที่ลดลง และความระมัดระวังของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อเพราะต้นทุนความเสี่ยงด้านเครดิต (credit cost) เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้สินเชื่อธุรกิจกลับมาขยายตัวได้และช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จึงร่วมกันผลักดัน ‘โครงการกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ : SMEs Credit Boost’ ที่เป็นกลไกค้ำประกันความเสี่ยงสำหรับ ‘สินเชื่อใหม่’ ที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยให้ธุรกิจกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับงบประมาณของโครงการจะมาจากการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ปี 2569 ของธนาคารพาณิชย์ประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดตั้งเป็นกลไกค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้มีสินเชื่อปล่อยใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 ล้านบาท ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
สำหรับโครงการกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ : SMEs Credit Boost เป็นการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาใหม่ จากการเรียนรู้ข้อจำกัดการดำเนินงานของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เริ่มโครงการได้ตั้งแต่ 15 มกราคม 2569 ระยะเวลาโครงการ 2 ปี ค้ำประกันสินเชื่อนาน 7 ปี สำหรับปล่อยสินเชื่อใหม่ ให้กับธุรกิจกลุ่มเป้าหมายครอบคลุม ดังนี้
ทั้งนี้ โครงการ SMEs Credit Boost ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด ‘ตรงจุด มี impact กระจาย คล่องตัว’ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
“โครงการนี้จะช่วยเสริมการดำเนินงานของโครงการค้ำประกันสินเชื่อโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อ และสนับสนุนการยกระดับศักยภาพทางธุรกิจ อันจะส่งผลบวกไปยังการจ้างงาน การสร้างรายได้ และการลงทุน ซึ่งจะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว”