"กสิกรไทย" แจกสูตร "ลงทุนตามกรุ๊ปเลือด" กับ 3 สิ่งที่ผู้ลงทุนทุกควรมี

เว็บไซต์ kasikornbank.com ได้เผยแพร่บทความ เรื่อง "แจกสูตรลงทุนตามกรุ๊ปเลือด เพื่อสุขภาพพอร์ตที่ดี" ซึ่งเขียนโดย K WEALTH Trainer ราชันย์ ตันติจินดา

โดยเนื้อหาระบุว่า รู้ไหมว่ากรุ๊ปเลือดคุณ อาจส่งผลมากกว่าสุขภาพของคุณ จากงานศึกษาบางชิ้นบ่งบอกว่ากรุ๊ปเลือดอาจมีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพ พฤติกรรม รวมถึงความชอบและพฤติกรรมการตัดสินใจของแต่ละคนอีกด้วย

ทีมงาน K WEALTH จึงได้ลองสำรวจข้อมูลจากหลายแหล่งพบว่าจะมีลักษณะนิสัยเด่นบางอย่างที่แทบทุกที่พูดเหมือนกันในคนแต่ละกรุ๊ปเลือด ซึ่งลักษณะนิสัยเหล่านั้นเอง ที่ K WEALTH มองว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่แต่ละคนชอบการลงทุนและมีสิ่งที่ควรให้ความสำคัญในเงินลงทุนที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนอาจสอดคล้องหรือแตกต่างไปจากศาสตร์การวิเคราะห์กรุ๊ปเลือดหรือการคาดการณ์ในบทความนี้ได้ ผู้อ่านและผู้ลงทุนควรใช้วิจารณญาณในการเลือกเอาคำแนะนำที่ตรงกับพฤติกรรมของตนเองไปปรับใช้

และตัวอย่างกองทุนหรือทางเลือกในการลงทุนในบทความนี้ยังไม่พิจารณาถึงระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุนแต่ละคน หากผู้อ่านตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาจากปัจจัยความเสี่ยงและความเข้าใจในผลิตภัณฑ์การลงทุนให้รอบคอบก่อนลงทุนเสมอ

เลือดกรุ๊ป A: สายเป๊ะ นักวางแผน ข้อมูลแน่น

คนเลือดกรุ๊ปนี้ มักทำอะไรชอบคิดล่วงหน้า มีแผนการที่ชัดเจน ด้วยข้อมูลที่หาหรือจัดเตรียมไว้อย่างดี การทำแต่ละอย่างจึงมีแบบแผนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า การลงทุนที่คนกลุ่มนี้ชอบ เช่น 

• หุ้นสามัญที่ได้ศึกษา อ่านข่าวหรือบทวิเคราะห์มาแล้วอย่างดี หรือกองทุนหุ้นที่ลงทุนในอุตสาหกรรมหรือภูมิภาคที่มีโอกาสเติบโตสูงในช่วงนี้ 
• หุ้นกู้ มักเลือกหุ้นกู้ของบริษัทที่มีอันดับความน่าเชื่อสูง หรือเป็นบริษัทที่คิดว่าธุรกิจดำเนินต่อไปได้แม้ว่าจะถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ต่ำกว่าระดับที่น่าลงทุนก็ตาม 
• กองทุนตราสารหนี้ มักติดตามแนวโน้มทิศทางดอกเบี้ยก่อนเลือกลงทุน เช่น ในช่วงที่ดอกเบี้ยสูงและใกล้ถึงจุดที่ดอกเบี้ยจะเริ่มปรับตัวเป็นขาลง คนกลุ่มนี้ก็อาจเลือกลงทุนกองทุนตราสารหนี้ระยะยาว เช่น กองทุน K-FIXED-A K-FIXEDPLUS-A ที่จะได้รับประโยชน์มากกว่ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น​

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนกลุ่มนี้ควรให้ความสำคัญมากกว่าคนกลุ่มอื่น คือ การกระจายการลงทุนไม่กระจุกตัวแต่ในสินทรัพย์จากผู้ออกเพียงรายเดียว เพราะอาจมีความเสี่ยงที่บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์นั้นปิดกิจการ หรือไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามปกติ จากความเสี่ยงเฉพาะตัวของบริษัทนั้น

 

เลือดกรุ๊ป B: สายชิลล์ นักสร้างสรรค์ หัวใจศิลปิน

​คนเลือดกรุ๊ปนี้ มักชอบซื้อหรือใช้ของที่ตนเองถูกใจ อาจเป็นของแหวกแปลกแนวไม่จำเป็นต้องตามใครหรืออาจเป็นของใช้ทั่วไปที่ตนเองชอบแต่ไม่ตามเทรนด์ใคร การลงทุนที่คนกลุ่มนี้ชอบ เช่น 

• หุ้นใหญ่พื้นฐานดี ที่ไม่ได้มีข่าวโดดเด่นหรือมีปริมาณการซื้อขายสูงนัก แต่คนเลือดกรุ๊ปนี้อาจมองว่าเป็นหุ้นที่มีการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ราคาไม่หวือหวา และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ก็เป็นทางเลือกที่น่าพอใจ
• หุ้นหรือกองทุนหุ้นของประเทศที่อาจดูไม่โดดเด่น หรือราคาอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอดีตจนคนส่วนใหญ่ไม่เลือกที่จะลงทุน เช่น กองทุนหุ้นจีนที่หลายสถาบันการเงินรวมถึงทีมงาน K WEALTH ไม่ได้มองเป็นกองทุนอันดับแรกๆ ที่แนะนำให้ลงทุน แต่คนเลือดกรุ๊ปนี้อาจมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุนหากถือลงทุนได้นานพอ 
• กองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นธีมหรือกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ไม่เหมือนกองทุนทั่วไป แต่มีการคัดสรรธีม/อุตสาหกรรมที่โดดเด่น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าภาพรวมของตลาดทั่วไป เช่น กองทุน K-HIT-A(A)

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนกลุ่มนี้ควรให้ความสำคัญมากกว่าคนกลุ่มอื่น คือ การมีวินัยในตนเอง ไม่ตัดสินใจลงทุนแบบหุนหันพลันแล่น ระวังการลงทุนกระจุกตัวในสินทรัพย์หรือกองทุนใดเกินกว่า 30%ของเงินลงทุนทั้งหมด

เพราะอาจมีความเสี่ยงที่มูลค่าเงินลงทุนส่วนใหญ่ปรับตัวลงในช่วงที่ต้องการใช้เงินทุนส่วนนี้ รวมถึงไม่ลงทุนในทางเลือกใดเพียงครั้งเดียวด้วยเงินทั้งหมดที่ตั้งใจ แต่ควรแบ่งไม้การลงทุนอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป หรือทยอยลงทุนแบบ DCA เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนถูกสินทรัพย์ แต่ผิดจังหวะการลงทุน

​

เลือดกรุ๊ป AB: สายมั่น รักสันโดษ

คนเลือดกรุ๊ปนี้ มักเป็นนักคิดหลายชั้น มีการหาข้อมูลหรืออาจสอบถามคนอื่นก่อนตัดสินใจ แต่เชื่อว่าการจัดการด้วยตนเองนั้นดีที่สุด การลงทุนที่คนกลุ่มนี้ชอบ เช่น 

• หุ้นบริษัทไทย ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET/mai เพื่อให้สามารถเลือกและตัดสินใจจากข้อมูลบริษัทได้ด้วยตนเอง 
• หุ้นหรือ ETF ที่ซื้อขายที่ตลาดหลักหทรัพย์ต่างประเทศ โดยปัจจุบันสามารถซื้อขายผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Offshore) ของบริษัทหลักทรัพย์ได้​

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนกลุ่มนี้ควรให้ความสำคัญมากกว่าคนกลุ่มอื่น คือ ต้นทุนและข้อจำกัด เมื่อเลือกลงทุนด้วยตนเอง เช่น ข้อจำกัดในการติดตามและเข้าถึงข้อมูลโดยเฉพาะหลักทรัพย์ต่างประเทศ ข้อจำกัดด้านมูลค่าเงินลงทุนหรือค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ เช่น การซื้อขายหุ้นในไทย ที่มีการคิดค่าธรรมเนียม 0.15%ของมูลค่าซื้อขาย โดยไม่ต่ำกว่า 50 บาท จะเทียบเท่ามูลค่าการซื้อขายประมาณ 33,333 บาท

ส่วนการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ เช่น ตลาดฮ่องกง ที่มีการคิดค่าธรรมเนียม 0.2%ของมูลค่าซื้อขาย โดยไม่ต่ำกว่า 90 HKD (ประมาณ 421 บาท) เทียบเท่ามูลค่าการซื้อขายประมาณ 210,000 บาท (สมมติอัตราแลกเปลี่ยน 1 HKD = 4.67 บาท และการซื้อขายผ่านบัญชี บล.กสิกรไทย) รวมถึงบางครั้งอาจต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและทันเวลา โดยอาจเปิดรับความเห็นจากบทวิเคราะห์หรือกูรูที่มีความน่าเชื่อถือบ้าง เพื่อลงทุนได้ถูกจังหวะ ไม่ปล่อยเวลาไปกับการหาและวิเคราะห์ข้อมูลนานเกินไป

สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์ต่างประเทศบนกระดานซื้อขายเอง แต่ยังมีข้อจำกัดด้านเงินลงทุนหรือการเข้าถึงข้อมูล ในช่วงแรกสามารถเลือกลงทุนผ่านกองทุนหุ้นต่างประเทศ เช่น กองทุนหุ้นญี่ปุ่น K-JPX-A(A) หรือกองทุนหุ้นเวียดนาม K-VIETNAM ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นแนะนำของ K WEALTH ประจำเดือน ก.พ. 67 แล้วเมื่อมีเงินลงทุนหรือเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น จึงค่อยพิจาณาลงทุนหุ้นโดยตรงในภายหลังผ่านบัญชีของ บล.กสิกรไทย ได้

เลือดกรุ๊ป O: สายครีเอท ชอบสร้างสรรค์

คนเลือดกรุ๊ปนี้ มักเป็นคนชอบคิดนอกกรอบ ไม่ตามใคร ชอบสร้างสรรค์ของใช้หรือวิถีชีวิตให้กับตนเอง การลงทุนที่คนกลุ่มนี้ชอบ เช่น 

• ลงทุนในสินทรัพย์ที่ราคามีความผันผวนสูง และเลือกจับจังหวะเพื่อสร้างสรรค์ผลตอบแทนด้วยตนเอง ไม่ชอบการใช้เครื่องมืออัตโนมัติ ทั้งการจัดพอร์ต หรือ Robo Advisor 
• ลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่ม เช่น งานศิลปะ หรือกองทุนหุ้นหรืออุตสาหกรรมที่มีเพียงบาง บลจ. ที่เสนอขาย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนกลุ่มนี้ควรให้ความสำคัญมากกว่าคนกลุ่มอื่น คือ ระวังการลงทุนกระจุกตัวในสินทรัพย์หรือกองทุนใดเกินกว่า 30%ของเงินลงทุนทั้งหมด เช่นเดียวกับเลือดกรุ๊ป B และควรเพิ่มเรื่องการวัดผลลัพธ์การลงทุนของตนเองเมื่อเทียบกับการลงทุนผ่านตัวช่วยการลงทุนบ้าง เพื่อจะได้พิจารณาแบ่งเงินลงทุนผ่านตัวช่วยและการลงทุนด้วยตนเองอย่างเหมาะสม

 

3 สิ่งที่ผู้ลงทุนทุกกรุ๊ปเลือดทุกคนควรมี

ไม่ว่าเป็นคนเลือดกรุ๊ปไหน มีนิสัย ความชอบ และประสบการณ์ลงทุนเพียงใด มีอยู่อย่างน้อย 3 สิ่งที่ผู้ลงทุนทุกควรมี ได้แก่

1. กระจายเงินลงทุนและกำหนดสัดส่วนให้เหมาะสม เช่น คนรับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรลงทุนตราสารทุนอย่างหุ้น/กองทุนหุ้น ประมาณ 50%-60%ของเงินลงทุน สินทรัพย์ทางเลือก 5%-7% ที่เหลือลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี
2. ทยอยลงทุน อาจเป็นการลงทุน DCA ทุกเดือน หรือหากเป็นการลงทุนด้วยเงินก้อน ควรแบ่งลงทุน 3 ไม้ขึ้นไป
3. ติดตามและอัปเดตข้อมูลข่าวสารอยู่เสมอ เพราะสิ่งที่เคยรู้และสร้างผลตอบแทนได้ในอดีต อาจไม่เป็นเช่นนั้นในปัจจุบันและอนาคต โดย K WEALTH เป็นหนึ่งในช่องทางอัปเดตให้กับผู้ลงทุน ทั้งรูปแบบบทความต่างๆ รวมถึง กองทุนแนะนำที่อัปเดตให้ทุกต้นเดือน และมุมมองการลงทุนที่อัปเดตให้ทุกต้นสัปดาห์ เป็นต้น

​ที่มา : กสิกรไทย