ลุ้นกำไรบจ.ภาคเรียลเซ็กเตอร์ กลุ่มนอนแบงก์ติดปีกพุ่ง 50%

เข้าสู่ฤดูกาลบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในภาคการผลิต หรือ เรียลเซ็กเตอร์ ทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 และงวด 6 เดือน หรือโค้งแรกของปี 2559

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ ระบุว่า จากข้อมูลที่ฝ่ายวิจัยฯรวบรวมถึงช่วงบ่ายวันที่ 8สิงหาคมที่ผ่านมา มีบริษัทจดทะเบียนประกาศงบการเงินไตรมาส 2/2559 แล้วราว 56 บริษัท คิดเป็น 34% ของ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาด โดยรายงานกำไรสุทธิรวมกันราว 9.69 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับ ไตรมาส 2/2558 และไตรมาส 1/2559 ที่ทำกำไรสุทธิรวมกันได้ 9.57 และ 9.44 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตเพียง 1.3% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และ 2.7% ตามลำดับ

ทั้งนี้หากพิจารณาเป็นรายกลุ่ม มีเพียงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่รายงานงบฯ จบไปตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำกำไรสุทธิรวมกัน 5.03 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6%จากไตรมาสแรก แต่ลดลง 2.2%เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
ส่วนภาคการผลิตจริง กำลังทยอยประกาศงบ บทวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัสฯ ระบุว่าชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับงวดก่อนหน้า อาทิ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง แม้ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย( SCCC) และบมจ.ไดนาสตี้เซรามิค ( DCC) กำไรลดลง ยกเว้น SCC ที่กำไรเติบโตมาช่วยหนุน จึงทำให้ภาพรวมของกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้างน่าจะออกมาทรงตัว

“หากประเมินเบื้องต้นจากข้อมูลบริษัทที่ประกาศงบ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่กำไรรวมในไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียน จะทำได้ใกล้เคียงกับไตรมาสแรกที่ประมาณ 2.1 - 2.3 แสนล้านบาท “ บทวิเคราะห์บล.เอเซีย พลัสฯ ระบุ
จากการรวบรวมข้อมูลของ “ฐานเศรษฐกิจ” บริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ หรือนอนแบงก์ ทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2559 และงวดครึ่งปีแรกพบว่าทำผลงานได้ดีเกินเป้าหมาย นอกจากนี้บางบริษัทสามารถพลิกกลับมามีกำไรหรือเทิร์นอะราวด์ต่อเนื่อง ขณะที่บางบริษัทเพิ่มเป้าการขยายสาขา

โดยบริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)(บมจ.) (ACAP ) รายงานผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2559 มีรายได้รวม 156.96 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43.547ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200.5% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 43.30 ล้านบาท

นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ACAP กล่าวว่า สาเหตุที่ผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นเนื่องมาจากการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้น โดยผู้ประกอบการมีความต้องการใช้เงินทุนเพื่อขยายธุรกิจ ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อ 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อของลูกค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่ประมาณ 70% และสินเชื่อลูกค้ารายย่อย 30%

ขณะที่ACAP ได้ปรับเป้าประมาณการในการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยเพิ่มเป็น 3,500 ล้านบาท จากเดิม 2,000 ล้านบาท โดยยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจ
บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 ( SAWAD )แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2559 มีกำไรสุทธิ 433.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 290.93 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 853.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 569.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50%

ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 2 ที่เพิ่มขึ้น 49.29% เป็นผลมาจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ ผ่านสาขาที่เพิ่มขึ้นเป็น 1,896 สาขา

ฟากบมจ. เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) ซึ่งประกอบธุรกิจหลักปล่อยสินเชื่อจำนำป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ ก็ยังซิ่งต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานครึ่งแรกมียอดปล่อยสินเชื่อ 1.57 หมื่นล้านบาท เติบโต 86% และมีรายได้รวม 1,868 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีสินเชื่อคงเหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 84% มีกำไรสุทธิ 580 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59 % โดยปัจจุบันพอร์ตลูกค้าของบริษัทฯเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบัญชี เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7 แสนบัญชี

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร MTLS กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งเปิดสาขาใหม่ในต่างจังหวัด

สำหรับปีนี้ MTLS ได้เพิ่มเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่เป็น 1,600 แห่ง จากเดิมวางไว้ที่ 1,350 แห่ง เพื่อขยายฐานลูกค้า ที่ยังมีความต้องการสินเชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก และมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อทั้งปีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 70% พอร์ตสินเชื่อคงค้าง หรือคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ผลักดันรายได้และกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,182 วันที่ 11 - 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559