ดร.ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Don Nakornthab ถึง ประเด็นทองคำกับบาทแข็งในมุมมองนักลงทุนต่างประเทศ Baht leads on gold rally
ดร.ดอน นาครทรรพ แสดงถึงมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับบทบาทของทองคำในการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยเฉพาะในปีนี้ที่ราคาทองคำสูงขึ้นทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า
ในความเป็นจริงทองคำไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า แต่มาจากปัจจัยภายนอกอย่างการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในประเทศ
ทองคำมีความสัมพันธ์กับค่าเงินบาทในแง่ที่ว่าเมื่อราคาทองคำสูงขึ้น นักลงทุนจะขายทองคำทำกำไรและแลกดอลลาร์เป็นเงินบาท ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น
แต่ถ้าดูข้อมูลการส่งออกทองคำของไทย พบว่าแม้การส่งออกทองคำจะเพิ่มขึ้น แต่ก็มีมูลค่าคิดเป็นเพียง 4% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักต่อค่าเงินบาท นอกจากนี้ ไทยยังเป็นประเทศที่นำเข้าทองคำสุทธิอยู่ดี
คำถามสำคัญคือ ราคาทองคำและค่าเงินบาทมักเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา แต่ตามหลักสถิติ การเคลื่อนไหวนี้อาจเกิดจาก "Spurious correlation" ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เกิดจากสาเหตุทางเศรษฐกิจจริงๆ แต่มาจากปัจจัยร่วมกัน เช่น การอ่อนค่าของดอลลาร์
ในส่วนของการลงทุน ดร.ดอนเน้นว่า ในปีนี้พันธบัตรรัฐบาลไทยให้ผลตอบแทนสูงเนื่องจากการแข็งค่าของเงินบาท และราคาทองคำที่ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทย
นอกจากนี้ ดร.ดอนยังชี้ว่า การเก็บภาษีการซื้อขายทองคำออนไลน์ที่กำลังถูกพิจารณา อาจช่วยลดแรงกระแทกต่อค่าเงินบาทจากการซื้อขายทองคำออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดการเคลื่อนไหวของเงินบาทตามราคาทองคำ
ทองคำไม่ได้เป็นตัวการให้เงินบาทแข็ง แต่การซื้อขายทองคำออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวตามทองคำมากเกินไป การเก็บภาษีนี้จึงเป็นมาตรการที่ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในทางที่เหมาะสม