ผู้ค้าทองคำ​ โต้ ไม่ใช่ต้นเหตุบาทแข็ง ค้านภาษีเทรดออนไลน์ เสนอคุมด้วยข้อมูล

24 ธ.ค. 2568 | 09:07 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2568 | 07:11 น.

ผู้ค้าทองคำ โต้ ธุรกรรมทองคำมีส่วนกระทบเงินบาทแข็งค่าเพียงทางอ้อม และบางช่วงเวลา ค้านแนวคิดจัดเก็บภาษีธุรกรรมทองคำออนไลน์ เสี่ยงทำลายอุตสาหกรรม พร้อมยืนยันผู้ค้าทองพร้อมให้ข้อมูลรัฐ และร่วมออกแบบมาตรการที่ไม่บิดเบือนกลไกตลาด

ทองคำไม่ใช่ตัวการบาทแข็ง

จากกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความกังวลว่า การซื้อขายทองคำ โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า จึงกลายเป็นที่มาของการออก 3 มาตรการคุมเข้มธุรกรรมทองคำ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (แม่ทองสุก) ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ฐานทอล์ค” ว่า การแข็งค่าของเงินบาทไม่ควรถูกมองว่าเกิดจากทองคำเพียงปัจจัยเดียว

โดยค่าเงินบาทในเชิงโครงสร้างผูกพันกับทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง บาทจึงแข็งค่าโดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกัน ราคาทองคำในตลาดโลกก็มักปรับตัวขึ้นในช่วงดอลลาร์อ่อน ทำให้ภาพที่เกิดขึ้นคือ “ทองขึ้น – บาทแข็ง” ซึ่งอาจถูกตีความผิดว่าเป็นความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลโดยตรง

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด (แม่ทองสุก)

เขาย้ำว่า ทองคำมีผลกระทบต่อเงินบาทจริง แต่เป็นผลกระทบทางอ้อมและเกิดขึ้นเป็นช่วงสั้น ๆ ไม่ได้เป็นปัจจัยที่กดดันค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยในหลายช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทกลับยังแข็งค่าต่อเนื่อง สะท้อนว่ามีปัจจัยอื่น เช่น ฟลว์เงินจากภาคธุรกิจ การนำเข้า–ส่งออกสินค้า และการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

เทรดทองออนไลน์ 2-3 เท่าของธุรกรรมหน้าร้าน

นพ.กฤชรัตน์อธิบายว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ปัจจุบันธุรกรรมซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มีปริมาณสูงกว่าการซื้อขายหน้าร้านทองไม่น้อยกว่า 2-3 เท่า และมากกว่า70% ของธุรกรรมรวม เนื่องจากความสะดวกและสอดคล้องกับโลกดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม การซื้อขายทองคำออนไลน์ไม่ใช่การเก็งกำไรบนตัวเลขลอย ๆ แต่เป็นการซื้อทองคำจริงทุกธุรกรรม โดยผู้ประกอบการต้องมีทองคำรองรับอยู่จริงหลังบ้าน เพียงแต่ลูกค้าเลือกถือครองในรูปดิจิทัลแทนการรับทองคำทันที

ผู้ค้าทองคำ​ โต้ ไม่ใช่ต้นเหตุบาทแข็ง ค้านภาษีเทรดออนไลน์ เสนอคุมด้วยข้อมูล

ในเชิงกลไก ผู้ค้าทองกำลังผลักดันให้การซื้อขายอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น เพื่อจำกัดผลกระทบต่อค่าเงินบาท โดยจะเกิดการแลกเงินบาทก็ต่อเมื่อลูกค้าต้องการรับทองคำแท่งจริง หรือแปลงสถานะกลับมาเป็นเงินบาทเท่านั้น ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินในภาพรวม

 

ค้านภาษีธุรกรรมทองเสี่ยงพังทั้งระบบ

สำหรับมาตรการที่ภาครัฐอยู่ระหว่างพิจารณา ทั้งการตั้งศูนย์ข้อมูลธุรกรรมทองคำ การจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ และการกำกับปริมาณซื้อขาย นพ.กฤชรัตน์ระบุว่า ผู้ค้าทองคำยินดีให้ความร่วมมือด้านข้อมูล แต่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการใช้มาตรการทางภาษี

เขามองว่า การจัดเก็บภาษีธุรกรรมทองคำออนไลน์เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด และอาจทำลายอุตสาหกรรมในระยะยาว โดยย้ำว่าหลายประเทศทั่วโลกไม่ได้ใช้ภาษีลักษณะนี้กับการค้าทองคำ แต่เลือกกำกับดูแลผ่านระบบข้อมูลและความโปร่งใสแทน

ในประเด็นการจำกัดปริมาณซื้อขาย นพ.กฤชรัตน์เห็นว่าต้องออกแบบอย่างระมัดระวัง หากกำหนดเพดานไม่เหมาะสมอาจกระทบสภาพคล่อง และผลักธุรกรรมออกนอกระบบ พร้อมเสนอให้ใช้การออกแบบระบบ การติดตามข้อมูล และเครื่องมือทางตลาดควบคู่กันมากกว่าการบังคับเชิงปริมาณ

ทั้งนี้ ธปท. มีกำหนดหารือร่วมกับกลุ่มผู้ค้าทองคำอีกครั้งในวันศุกร์นี้ เพื่อหาทางออกที่สมดุลระหว่างการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท และการรักษาความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมทองคำไทยในระยะยาว