KEY
POINTS
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า จากประเด็นค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน มองว่าจากนี้ไปจนถึงต้นปีหน้ายังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ
โดยล่าสุดวานนี้ (25 ธ.ค.68) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 31.09 บาทต่อดอลลาร์ (ณ เวลา 17.14น.) ซึ่งใกล้เคียงกับแนวรับเชิงเทคนิกที่ทางฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยเชื่อว่าแม้เงินบาทจะยังอยู่ในโซนแข็งค่า แต่คาดว่าจะไม่มากไปกว่านี้ และจะไม่หลุดที่แนวต้าน 30.5-30.7 บาทต่อดอลลาร์
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว แม้จะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้ถูกกำหนดโดยภาพของเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่มีเรื่องของการเคลื่อนไหวของเงินเข้ามามีส่วนสำคัญร่วมด้วย
แต่อีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามามีบทบาทต่อการแข็งค่าของเงินบาทอย่างมาก และกำลังเป็นที่จับตาอยู่ในเวลานี้คือการเทรดทองคำออนไลน์ มองว่ามีความเป็นไปได้ที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าเร็วและแรงในเวลานี้ เพราะการซื้อขายทองคำคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20%
เชื่อมโยงกับข้อมูลของ ปท. ที่พบว่า การลงทุนในทองคำมีความสัมพันธ์กับการแข็งค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ขณะที่รายได้ของผู้ค้าทองรายใหญ่ 15 แห่ง สูงถึง 39% ของ GDP อีกทั้งเงินบาทเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับทองคำ ในปีนี้ที่สหสัมพันธ์ (correlation) 65% สูงกว่าประเทศในภูมิภาคที่ 15-35%
และสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2565-2567 ที่เพียง 46% ทำให้อาจมีมาตรการกำกับดูแล อาทิ ขอข้อมูลการทำธุรกรรม, จำกัดขนาดของการทำธุรกรรมออนไลน์, ศึกษาความเหมาะสมในการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
โดยการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากและขยายตัวในวงกว้าง ซึ่งเมื่อมีการขายทองจะถูกลแกเปลี่ยนจากเงินดอลลาร์มาเป็นเงินบาท ยิ่งเป็นผลให้เงินบาทแข็งค่ามากยิ่งขึ้น ซึ่งในเวลานี้ยังไม่ทราบที่มาว่าดีมานด์ทองคำมอจากกลุ่มไหน รายใหญ่หรือรายย่อย ซึ่งคงต้องรอรายละเอียดต่อไป