ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 19ก.ย.ที่ระดับ 31.84 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทภาพรวมการเคลื่อนไหวในวันนี้ยังคงอ่อนค่าเล็กน้อย เนื่องจากเงินดอลลาร์มีแรงประคองจากสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ยของเฟดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (22-26 ก.ย.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 31.50-32.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 19ก.ย.ที่ระดับ 31.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทฟื้นตัวกลับมาบางส่วนตามการรีบาวด์ของราคาทองคำในตลาดโลก แต่ในภาพรวมการเคลื่อนไหวในวันนี้ยังคงอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดวันก่อนหน้า เนื่องจาก Sentiment ของเงินดอลลาร์ฯ มีแรงประคองจากสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ยของเฟด และตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด
อนึ่ง ธปท. ระบุว่า ยังไม่เห็นสัญญาณผิดปกติที่สะท้อนการเก็งกำไรค่าเงินบาท ซึ่งที่ผ่านมา ธปท. ได้เข้าดูแลเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินไม่ให้เคลื่อนไหวเร็วและแรงเกินไป สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 3,190.44 ล้านบาท และ 302 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 19 กันยายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -23.29 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -19.59 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (22-26 ก.ย.) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 31.50-32.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือนส.ค. ของไทย ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 (final) ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ของผู้บริโภคเดือนก.ย. ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ อังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีนด้วยเช่นกัน