ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 30พ.ค.ที่ระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าระหว่างวัน ต่อเนื่องจนถึงช่วงปิดตลาดในประเทศ น่าจะมีแรงกดดันจากราคาทองคำปรับตัวลง และแรงขายของต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า 4-6 มิ.ย. 2568 ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.40-33.10 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 30พ.ค.ที่ระดับ 32.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงแรก (เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าหลังศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ระงับคำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว) แต่พลิกกลับมาอ่อนค่าระหว่างวัน และต่อเนื่องจนถึงช่วงปิดตลาดในประเทศ
โดยน่าจะมีแรงกดดันจากการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก และแรงขายของต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย ซึ่งในวันนี้ ขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 11,093 ล้านบาท และ 7,166 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า (4-6 มิ.ย. 2568) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.40-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสถานการณ์สงครามการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนพ.ค. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย. รายงาน Beige Book ของเฟด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ค. ของญี่ปุ่น ยูโรโซน อังกฤษ และจีน และตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. ยูโรโซน