ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 34.67 บาทต่อดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวกลับมาบางส่วนหลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 34.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงแรก
เนื่องจากตลาดทยอยปรับโพสิชันและกลับมารอติดตามผลการประชุมกนง. (31 พ.ค.) และ ข้อสรุปของการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยอีก 3,567.16 ล้านบาท และ 521 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -34.90 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -31.41 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 29พ.ค.-2 มิ.ย.2566 คาดไว้ที่ 34.30-34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมกนง. (31 พ.ค.) สถานการณ์การเมืองในประเทศ ตัวเลขการส่งออก/รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนเม.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และ
ผลการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิต ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ข้อมูล JOLTS เดือนเม.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงาน Beige Book ของเฟด นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษด้วยเช่นกัน