การเทรดหุ้นด้วยทฤษฎี Elliott wave บน Wave 3

18 ก.พ. 2565 | 10:12 น.

การเทรดหุ้นด้วยทฤษฎี Elliott wave บน Wave3 : คอลัมน์ Investing Tactic โดยนายศิระ ลี้เจริญรักษา (โค้ชอ้อ) วิทยากรพิเศษ โครงการ SITUP

สงสัยกันไหมว่า ทำไมทฤษฎีต่างๆ ที่มีมาเป็นร้อยปี ถึงยังใช้ได้อย่างแม่นยำมาตลอดจนถึงทุกวันนี้  ในเมื่อตั้งแต่อดีตดำเนินมาถึงปัจจุบันนั้น โลกมีความเปลี่ยนแปลงไปมากมาย เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ หรือเก็บข้อมูลเชิงลึก ก็ถูกพัฒนาไปไกลกว่าสมัยก่อนมาก  เหตุใดพวกทฤษฎีที่เก่าแก่ยังใช้ได้ดีอยู่
 

 

คำตอบนั้นอาจเป็นวลีคลาสสิก คือ “ทุกสิ่งเปลี่ยนไป แต่ใจคนยังเหมือนเดิม” การขึ้นลงของราคาหุ้นนั้นล้วนมีความหมายที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรม อารมณ์ จิตใจ ของนักลงทุน  ซึ่งในทุกๆ ยุค มีความเหมือนกัน

เริ่มแรกในการเข้าสู่วงการหุ้นของนักลงทุน ส่วนใหญ่เข้ามาเพราะสนใจในตัวผลกำไรเป็นหลัก ปลาส่วนใหญ่ที่ติดอวนตาข่ายของตลาดหุ้น จึงเป็นกลุ่มคนโลภที่มีอารมณ์ค่อนข้างสูง ถือเป็นการคัดคนเข้าของตลาดหุ้นที่ชาญฉลาด  

การเทรดหุ้นด้วยทฤษฎี Elliott wave บน Wave 3

และเมื่อนักลงทุนเหล่านี้ได้พบเจอกับ สภาวะต่างๆ ของตลาดหุ้นที่สร้างอารมณ์ ความโลภ ความกลัว ความแค้น ความดีใจ ความเสียใจ ความอึดอัด ความเสียดาย ความสิ้นหวัง จนทนความรู้สึกเหล่านี้ไม่ไหวจึงพ่ายแพ้ไปในที่สุด ถือเป็นการคัดคนออกจากตลาดที่แสนแยบยล  และวนลูปซ้ำๆ ต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  นี่เลยเป็นสิ่งหนึ่งที่เพิ่มความมั่นใจได้ว่า ทฤษฎีที่มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติของอารมณ์มนุษย์นั้นจะยังใช้ได้ดีอยู่เสมอ

 

Elliott wave เป็นอีกหนึ่งทฤษฎี ที่การขึ้นลงในแต่ละคลื่นนั้น  ล้วนมีความหมายที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรม อารมณ์ จิตใจ ของนักลงทุน เราจึงสามารถใช้องค์ความรู้นี้มาประยุกต์เป็น Trade Setup ได้

 

ทฤษฎีของ Elliott wave อาจจะมีความซับซ้อนอยู่มาก จึงต้องอาศัยเวลาและความเชี่ยวชาญถึงจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ทั้งหมด แต่หากเราจะทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเพียงบางส่วนก่อน เพื่อนำมาใช้งานจริงได้เร็ว ก็ย่อมได้ เพียงแต่ต้องรู้จักวิธีควบคุมความเสี่ยงตามไปด้วยเสมอ  ผมจะอธิบายแบบง่ายๆดังนี้

 

  • โครงสร้างของ Elliott wave
  • คลื่นส่ง จะมี 5 คลื่น เรียกว่า 1  2  3  4  5 
  • คลื่น  1  3  5  จะไปในทิศทางเดียวกัน
  • คลื่น  2  จะไม่ยาวเกินคลื่น  1
  • คลื่น  3  จะมีความยาวมากกว่าคลื่น  2
  • คลื่น  3  จะไม่สั้นที่สุด แต่จะยาวที่สุดหรือไม่ก็ได้
  • คลื่น  4  จะไม่ยาวเกินคลื่น  3
  • คลื่น  5  จะยาวกว่าคลื่น  4  หรือไม่ก็ได้

 

  • คลื่นรับ จะมี 3 คลื่น เรียกว่า  a  b  c
  • คลื่น  a  c  จะไปในทิศทางเดียวกัน
  • คลื่น  b จะเป็นตัวกำหนดรูปแบบของคลื่นรับ

 

และถึงแม้ว่าจะมีเพียง 3 คลื่น  แต่สามารถมีมากกว่า 1 ชุด  การเคลื่อนไหวในคลื่นรับจึงมีความซับซ้อนมากกว่า และยังสามารถเคลื่อนตัวเป็นรูปแบบสามเหลี่ยม ซึ่งจะกลายเป็น 5 คลื่น คือ  a  b  c  d  e  ได้อีกด้วย

 

หากในช่วงแรกเราจะสนใจศึกษาในคลื่นส่งก่อน เพื่อได้ทดลองทำกำไร  ก็จะเห็นได้ว่าคลื่นที่น่าสนใจที่สุด คือคลื่น  3  เพราะอย่างน้อยเรารู้ว่าจะไม่ใช่คลื่นที่สั้นที่สุด   และหากมันย่อก็ยังสามารถขึ้นเป็นคลื่น  5  ได้อีกครั้ง  และไม่ต้องทนเสี่ยงกับรูปแบบที่ซับซ้อนของคลื่นรับ  เพราะก่อนที่จะเข้าคลื่น  3  ได้ ต้องยืนยันการจบคลื่นรับ เป็นคลื่น 1 มาก่อนแล้ว


ทีนี้เราก็นำข้อมูลกฎต่างๆตามทฤษฎีมาใช้เป็นเงื่อนไขในการสร้าง Trade Setup
เราจะได้กราฟรูปทรงนี้

การเทรดหุ้นด้วยทฤษฎี Elliott wave บน Wave 3

จะเห็นได้ว่าคลื่น  3  นั้นสามารถขึ้นได้สูงในระยะเวลาอันสั้น  จึงสามารถนำมาใช้ในการทำกำไรได้ง่าย

 

ในการลงทุนอย่างมืออาชีพนั้นแตกต่างจากการเล่นหวยหรือเล่นการพนัน เราจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง สิ่งใดที่เราเคยทำได้แต่กลับไปทำซ้ำไม่ได้นั้นเป็นเพียงความฟลุ๊ค  แต่หากเรากลับไปทำซ้ำได้อย่างต่อเนื่องนี่ถึงจะเป็นของจริง ตลาดหุ้นนั้นเลือกให้ผลตอบแทนนักลงทุนจากคุณค่าที่เค้ามี ฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องรีบ หรือไม่จำเป็นต้องเสียใจหากได้พลาดพลั้งไปแล้ว  เพียงกลับมาสร้างคุณค่าในตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น  นี่เป็นหนึ่งอาชีพที่ทุกความพยายามของเราไม่สูญเปล่า  เมื่อมีความรู้ความสามารถมากพอ ตลาดหุ้นจะเลือกให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับตัวเอง

Credit : ข้อมูลองค์ความรู้จาก ครูไก่ กนิษฐา รอดดํา