นายปัญญวัฒน์ โพธิ์ศรีทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟิน อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ จำกัด สตาร์ทอัพน้องใหม่ในธุรกิจประกัน ภายใต้แบรนด์ ‘ฟินประกันรถ’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มนายหน้าประกัน (Broker Tech) ในรูปแบบ B2B ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดดและขยายตัวได้อย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายมีรายได้แตะ 1,500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ข้างหน้า
ขณะที่แผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 3 ปี ต่อจากนี้ (2564-2566) บริษัทฯ มุ่งสร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจประกัน โดยพัฒนาแพลตฟอร์มนายหน้าประกัน เพื่อยกระดับเครื่องมือการขายจากออฟไลน์ (Offline) แบบเดิมๆ เข้าสู่ออนไลน์ (Online) และเพิ่มโอกาสการขายใหม่ๆ ด้วยการมีผลิตภัณฑ์ประกันอย่างครบวงจร เพื่อสร้างรายได้ให้กับนายหน้าประกันให้เพิ่มขึ้น
ล่าสุดบริษัทฯ ประกาศเพิ่มทุน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล ‘FIN Broker’ นายหน้าประกันออนไลน์ ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้กับตัวแทนประกันและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ก้าวไปสู่เป้าหมาย
สำหรับ แพลตฟอร์ม ‘FIN Broker’ เป็นการนำเสนอโซลูชั่นเพื่อตอบโจทย์ทางด้านบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วให้กับตัวแทนประกันแบบเรียลไทม์ และสามารถนำเสนอประกันแบบเจาะลึกเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคล (Personalize) สอดรับข้อมูลลูกค้าและผลประโยชน์ ด้วยการวิเคราะห์ Big Data ซึ่งมีการประมวลผลรวดเร็วโดยเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับตัวแทนประกัน สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมยิ่งขึ้น
ส่วนกลยุทธ์การตลาดนั้น บริษัทฯจะนำเสนอการสร้างประสบการณ์การใช้ประกันได้ง่ายและรวดเร็ว ในราคาถูก ภายใต้แนวคิด ‘FIN Family’ ที่สามารถสมัครเป็นสมาชิกเพื่อซื้อใช้เองผ่านทาง https://www.fininsurance.co.th/ พร้อมรับส่วนลดแบบเต็มๆ โดยมีที่ปรึกษาการขายที่ดูแลแบบใกล้ชิด ต่อเนื่อง เพื่อทำให้ไม่ต้องไปหาซื้อประกันเองในออนไลน์
“เรามีเป้าหมายสร้างแพลตฟอร์ม “FIN Broker” ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้นายหน้าประกันสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มโอกาสการขาย และสร้างรายได้ที่มากขึ้น เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของนายหน้าประกันทุกราย และผลักดันให้ FIN Broker เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำของประเทศ หนึ่งเดียวในใจของนายหน้าประกันทั่วประเทศ” นายปัญญวัฒน์กล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานในเดือนธันวาคม 2563 บริษัทฯ สามารถทำยอดเฉพาะเบี้ยประกันรถยนต์ได้สูงถึง 50 ล้านบาท ภายในหนึ่งเดือนและมีสมาชิกมากกว่า 10,000 คน เพราะใช้ทักษะของคนรุ่นใหม่ (Upskill) เข้ามาช่วยพัฒนาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มนายหน้าประกัน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของนายหน้าให้ครอบคลุม (Pain point) ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม เพิ่มความสามารถเชิงการแข่งขันและสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้และมั่นใจว่า ด้วยแผนกลยุทธ์ที่วางไว้จะช่วยผลักดันการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมืองไทยประกันภัย(MTI)มอบกรมธรรม์โควิดแก่บุคลากรทางการแพทย์ ต่อเนื่องทุนประกันรวม 55ล้านบาท
"ประกันภัยข้าวนาปี 63" ธ.ก.ส.จ่ายค่าสินไหมเกษตรกรแล้วกว่า 370 ล้านบาท
บสย.เผย“ยอดค้ำประกันสินเชื่อสะสม 1 ล้านล้านบาท” ทะลุเป้าก่อน 2ปีรักษาการจ้างงานกว่า 7 ล้านตำแหน่ง
เมืองไทยกรุ๊ปเพิ่มทุน “gettgo”200ล้านบาทรุกตลาดประกันออนไลน์