บิ๊กล็อตหุ้นTMB หลังมีข่าว"โนวาสโกเทีย"ขายหุ้นทิ้ง4.57%
"แบงก์โนวาสโกเทีย"ขายบิ๊กล็อตหุ้น TMB และ TMB-F รวมสัดส่วน 4.57% มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท เหลือหุ้นหลังการขายเพียง 0.33% ยันไม่กระทบการบริหาร
17 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเวลา 10.12 น.พบรายการบิ๊กล็อตหุ้น TMB และ TMB-F รวม 4,406,958,411 หุ้น คิดเป็น 4.57% ของทุนชำระแล้วทั้งหมดที่ 96,409.416 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.95 บาท เป็นมูลค่าซื้อขายรวม 5,023.94 ล้านบาท
โดยเป็นรายการบิ๊กล็อต TMB 77 รายการ จำนวน 2,146,225,106 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,446.70 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 1.14 บาท/หุ้น และรายการบิ๊กล็อต TMB-F 26 รายการ จำนวน 2,260,733,305 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,577.24 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 1.14 บาท/หุ้น
โดยเมื่อเวลา 11.08 น. ราคาหุ้น TMB ร่วงลง 1.67% มาอยู่ที่ 1.18 บาท ลดลง 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,396.52 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.18 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.19 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.17 บาท หรือร่วงลง 2.50%
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ถือ"หุ้นธนาคารทหารไทย (TMB) ราคาเป้าหมาย 1.20 บาท หลังมีข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS) ขายหุ้น TMB จำนวน 4,406.9 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.13-1.14 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาท
ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นลบเล็กน้อยต่อประเด็นดังกล่าว แม้ว่ารายการนี้คาดว่าจะเกิดเป็น Big lot เช้านี้ซึ่งจะไม่ได้มีแรงขายในกระดาน แต่มองว่าจะส่ง Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้นเล็กน้อย เพราะราคาขายต่ำกว่าราคาตลาดเพียง 5-6% ขณะที่คาดว่าจะไม่มีผลต่อการดำเนินงานของ TMB และ BNS ตั้งใจที่จะขายหุ้น TMB อยู่แล้วตามนโยบายของบริษัทแม่ที่ต้องการถอนลงทุนออกจากทั้งหมด 20 ประเทศ
ทั้งนี้ อ้างอิงแบบรายงานการจัดจำหน่ายสินทรัพย์ (246-2) พบว่า BNS ถือหุ้น TMB ก่อนหน้าการทำรายการนี้อยู่ที่ 4,724 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 4.9% ทำให้หลังการทำรายการนี้ BNS จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้น TMB ราว 0.33% คิดเป็นจำนวนหุ้นราว 315 ล้านหุ้น
ด้านแหล่งข่าวจากธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย (BNS) ขายหุ้น TMB ออกในสัดส่วนเกือบ5%เบื้องต้นมีรายงานข่าวเป็นการขายให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ยืนยันว่าการขายหุ้นของ BNS ดังกล่าวจะไม่กระทบต่อโครงสร้างการบริหารงานของธนาคาร เนื่องจาก BNS ไม่ได้ถือหุ้นของธนาคารในสัดส่วนที่มากนัก
อีกทั้งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร ทั้ง ING BANK N.V., บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) และกระทรวงการคลัง ยังถือหุ้นอยู่ในระดับเดิม โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ 6 อันดับแรกของ TMB ล่าสุด ณ เมื่อเดือน ก.ค.63 ประกอบด้วย
1. ING BANK N.V. ถือหุ้น 23.03%
2.TCAP ถือหุ้น 20.12%
3. กระทรวงการคลัง ถือหุ้น 11.79%
4. THE BANK OF NOVA SCOTIA (BNS) ถือหุ้น 5.21%
5.กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดยบลจ.กรุงไทย ถือหุ้น 5.11%
6.กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี ถือหุ้น 5.11%
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา THE BANK OF NOVA SCOTIA ได้ขายหุ้น TMB จำนวน 0.1037% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลมีจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่าย คิดเป็น 4.903% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ