ธีมลงทุน ที่ตอบโจทย์ New Normal
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้การใช้ชีวิตจากนี้ไป จะไม่เหมือนเดิม เกิดวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เรียกว่า New Normal เพราะโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก หลายธุรกิจต่างต้องชะลอตัว ขณะที่บางธุรกิจได้รับผลกระทบจนต้องปิดตัวไป แต่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กับการดูแลสุขภาพ นวัตกรรมทางการแพทย์ รวมถึงยารักษาโรคกลับได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผลการดำเนินงานที่ดีจากพฤติกรรมการบริโภคและรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป
ดังนั้น จึงเห็นว่าแม้โควิด-19 จะส่งผลกดดันต่อผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยงทุกชนิด โดยเฉพาะหุ้น แต่หุ้นกลุ่มธุรกิจ (Healthcare) กลับเป็นหุ้นในไม่กี่กลุ่มที่สามารถสร้างรายได้อย่างสมํ่าเสมอ แม้ในยามที่ภาวะตลาดผันผวน (Defensive) ทำให้สร้างผลตอบแทนได้มากกว่าดัชนีหุ้นโลกกว่า 10% โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotech) ที่ได้รับประโยชน์จากการรักษาทางออนไลน์ เช่น หุ้น Teladoc ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผู้ป่วยทั่วไปหันมาใช้การรักษาทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 จากโรงพยาบาล
นอกจากนั้น กลุ่มเวชภัณฑ์ (Pharma) ที่บริษัทผู้ผลิตสามารถสร้างอุปกรณ์ตรวจสอบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุผลทดสอบได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะคิดค้นและพัฒนายาเพื่อรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่การผลิตวัคซีนยังคงต้องใช้เวลาในการทดสอบอีกอย่างน้อย 6 เดือน ทำให้ในระยะสั้นตลาดยังคงมีความผันผวนอยู่
ดังนั้น การลงทุนก็ควรเน้นธีมลงทุนระยะยาวจากนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวกระโดด การสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปด้วย เพราะนอกจากตอบโจทย์ New Normal และเทรนด์การดูแลสุขภาพแล้ว ที่สำคัญคือ ยังตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุที่กำลังก้าวเข้าไปอย่างเต็มรูปแบบด้วย แต่ต้องมองเป้าหมายการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตตามหุ้นในกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ด้วย เพราะราคาหุ้นกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะผันผวนตามปัจจัยทางการเมืองและกฎหมาย เช่น นโยบายด้านราคา รวมถึงกฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆ ที่อาจกดดันราคาในระยะสั้นได้
ทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ จึงอยากให้มองวิกฤติครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุน แม้ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวในปัจจุบันและอาจเกิดความผันผวนในระยะสั้น แต่ยังสามารถเข้าลงทุนในหุ้นและทรัพย์สินที่มีคุณภาพดีในราคาที่ปรับลดลงมามากได้ โดยเฉพาะหุ้นและทรัพย์สินที่จะได้รับปัจจัยบวกจาก New Normal ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ, ดาต้า เซ็นเตอร์, โลจิสติกส์, และสินค้าอุปโภคบริโภค
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,575 วันที่ 17 - 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2563