โอกาสสุดท้าย รายย่อยSSI หุ้นเปิดเทรดถึง 26 เม.ย.59

ในที่สุดหุ้นของบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน)(SSI ) ก็เดินมาถึงจุดที่ต้องถูกพักการซื้อขายยาวอีกหลายปี จากพิษราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำทำให้บริษัทจดทะเบียนเก่าแก่ ในตลาดหุ้นเกือบ 22 ปี ต้องถูกแช่แข็งในกลุ่มฟื้นฟูกิจการ

งบการเงินปี 2558 ของ SSI ปรากฏส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 3.69 หมื่นล้านบาท เป็นผลให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อบังคับตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

อย่างไรก็ตามในช่วง 1 เดือนนี้ คือ ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม- 26 เมษายน 2559 ถือเป็นโอกาสสุดท้ายของนักลงทุนที่จะได้ตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายหุ้น SSI เพราะตลท.ได้ปลดเครื่องหมาย SP (พักการซื้อขาย) หุ้น SSI ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 2559 หลังเปิดเผยข้อมูลสำคัญแล้วเกี่ยวกับทางเลือกในการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลาง

ทั้งนี้ตลท.จะขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้น SSI อีกครั้งในวันที่ 27 เมษายน 2559 เนื่องจากบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์และอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลท. ความหมายก็คือ แขวนป้าย SP ยาว จนกว่าจะทำให้ส่วนผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก

เมื่อเปิดข้อมูลโครงสร้างผู้ถือหุ้นSSI พบว่า ณ วันที่ 30 มีนาคม 2558 SSI มีจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 17,424 ราย ในจำนวนนี้เป็นการถือหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย 17,203 ราย ขณะที่มีสัดส่วนการถือหุ้นของรายย่อย หรือฟรีโฟลต 50.38 % ส่วนราคาหุ้นล่าสุด ( 28 มี.ค.59 )ปิดที่ 0.04 บาท

การเทกโอเวอร์โรงถลุงเหล็กในประเทศอังกฤษ ของSSI จากกลุ่มทาทาสตีล หรือบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค จำกัด(เอสเอสไอ ยูเค) เมื่อปี 2554 วันนี้กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ถึงขั้นวิกฤติของSSI
เอสเอสไอ ยูเค ผิดนัดชำระหนี้กับ 3 เจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในประเทศ ด้วยมูลหนี้ 2.8 หมื่นล้านบาท และบริษัทดังกล่าวยังขาดทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 หลัง SSI เข้าไปเทกโอเวอร์

ขณะที่SSI ได้ต่อสู้มาตลอด 3 ปี ในการแก้ปัญหาฐานะการเงิน ผลการดำเนินงาน และสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อไม่ให้เป็นบจ.ที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนและหยุดเลือดไหลในเอสเอสไอ ยูเค ทั้งการเพิ่มทุนขายผู้ถือหุ้นเดิมและบุคคลในวงจำกัดเบ็ดเสร็จแล้ว 2 ปีติดกันSSI ได้อัดฉีดเงินไปถึง 9.4 พันล้านบาท ในการพยุงฐานะและแก้ปัญหาสภาพคล่อง

การเทกโอเวอร์เอสเอสไอ ยูเค ของ SSI ถือว่าโชคไม่เข้าข้าง เพราะไตรมาส 4 ของปี 2557 SSI ต้องเผชิญกับสงครามราคาที่รุนแรงเนื่องจากกำลังการผลิตเหล็กที่ล้นโลก ทำให้ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นตามลำดับ หรือขาดทุนลดลงทุกไตรมาส ก็ถูกซ้ำเติมหนักเข้าไปอีกจนถึงขั้นประกาศปิดโรงงานถุงเหล็กที่อังกฤษ

กำหนดเวลาดำเนินการหลังจากที่SSI ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลและศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม2558 ศาลได้ดำเนินการไต่สวนคำขอฟื้นฟูกิจการแล้วเสร็จในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 และมีคำสั่งให้SSI ฟื้นฟูกิจการและตั้งให้SSI เป็นผู้ทำแผนเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2559 ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ SSI ในฐานะผู้ทำแผนจะจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อขอความเห็นชอบจากศาล ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 12 เดือน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ

"บริษัท มีความเชื่อมั่นว่า หากบริษัท ดำเนินการตามกระบวนการฟื้นฟูกิจการครบถ้วนแล้ว จะสามารถแก้ไขเหตุแห่งการถูกเพิกถอน กล่าวคือ ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท จะกลับมาเป็นบวกรวมถึงมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติจากธุรกิจหลัก" เป็นข้อความที่SSI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่แสดงถึงความมุ่งมั่นอีกนัยหนึ่งเป็นการให้ความมั่นใจแก่ผู้ถือหุ้นว่า วันหนึ่งSSI จะกลับมาผงาดในตลาดหุ้นอีกครั้ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,144
วันที่ 31 มีนาคม - 2 เมษายน พ.ศ. 2559